เชิญดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้แล้วค่ะ ประโยคภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล 1000 ประโยคง่ายๆ ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อยากเก่งภาษาอังกฤษก็ต้องฝึกฝนเป็นประจำสม่ำเสมอ สู้ๆ ขอให้เก่งอังกฤษกันทุกคนนะคะ
ดาวน์โหลด
สามารถดาวน์โหลดอีบุ๊คพร้อม MP3 ประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ 4,500 ประโยค เพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้เลย http://20sentencesaday.blogspot.com/
..............................
- A cry from above warned me of the danger. เสียงร้องจากข้างบนเตือนฉันถึงอันตราย
- A drop of water is vital if you are in the desert. น้ำหนึ่งหยดก็สำคัญมากถ้าคุณอยู่ในทะเลทราย
- A lot of parents attended the meeting. พ่อแม่จำนวนมากเข้าร่วมประชุม
- A lot of top people went to prep schools. คนระดับสูงจำนวนมากเคยเข้าโรงเรียนเตรียม
- A Mr John has called to see you. ผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อจอห์นโทรมาขอพบคุณ
- A Mrs Mary will come to see you tomorrow. คนที่ชื่อนางแมรีคนหนึ่งจะมาพบคุณพรุ่งนี้
- A teacher earns less than a lawyer. ครูได้เงินเดือนน้อยกว่าทนาย
- Actually, I was born in Lampang. จริงๆ แล้วฉันเกิดที่ลำปาง
- Admit it - you love me. ยอมรับมาเถอะว่า คุณรักฉัน
- After an accident, he had a pain in his chest. เขาเจ็บที่หน้าอกหลังจากอุบัติเหตุ
- And he doesn't like that? และเขาไม่ชอบมันหรือ?
- Any other symptoms? มีอาการอื่นๆ อีกไหม?
- Anything to drink? ดื่มอะไรสักหน่อยไหม?
- Are the children asleep? เด็กๆ หลับหรือยัง?
- Are you afraid of the dark? คุณกลัวความมืดไหม?
- Are you asking me out on a date? คุณกำลังขอฉันออกเดทหรือ?
- Are you aware of difficulty? คุณรู้ถึงความยากลำบากหรือเปล่า?
- Are you enjoying yourself? คุณรู้สึกสนุกไหม?
- Are you seeing anybody else? คุณกำลังคบหากับใครคนอื่นอยู่หรือเปล่า?
- As the head of this family, I labor for the future of my children. ในฐานะหัวหน้าครอบครัว ฉันตราตรำเพื่ออนาคตของลูกๆ
- At least not in the way you think. อย่างน้อยก็ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด
- Because he doesn't use reasons. เพราะว่าเขาไม่ใช่เหตุผล
- Because I was too tired and fell asleep. เพราะว่าฉันเหนื่อยเหลือเกินและก็ผล็อยหลับไป
- Because it will put me in big trouble. เพราะมันจะสร้างปัญหาใหญ่หลวงให้ฉัน
- Because my grade is bad. เพราะว่าเกรดของฉันแย่
- Because we haven't got a lot of time. เพราะว่าพวกเราไม่มีเวลามากนัก
- Before he asked her to marry. ก่อนที่เขาจะขอเธอแต่งงาน
- Believe it or not,… เชื่อหรือไม่
- Better do your research! Get it done! ทำงานวิจัยของคุณดีกว่า ทำมันให้แล้วเสร็จ
- Can I ask you something as our boss? ขอฉันถามอะไรคุณบางอย่างในฐานะที่คุณเป็นเจ้านายได้ไหม?
- Can I go with you guys? ขอฉันไปกับพวกนายด้วยได้ไหม?
- Can I help you find something? ให้ฉันช่วยคุณหาของบางอย่างไหม?
- Can I take this chair? ฉันเอาเก้าอี้นี่ไปได้ไหม? / ฉันนั่งเก้าอี้นี่ได้ไหม?
- Can I talk to you for a moment? ขอฉันพูดกับคุณสักครู่ได้ไหม?
- Can you advise me on what to do? คุณช่วยแนะนำฉันหน่อยได้ไหมว่าควรทำอะไร?
- Can you illustrate that? คุณช่วยอธิบายสิ่งนั้นหน่อยได้ไหม?
- Can you pass me that newspaper please? คุณช่วยส่งหนังสือพิมพ์ให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?
- Can you please take a photo of me? คุณช่วยกรุณาถ่ายภาพให้ฉันหน่อยได้ไหม?
- Can you recommend somewhere to stay? คุณช่วยแนะนำสถานที่พักบางแห่งหน่อยได้ไหม?
- Can you tell me how to get to the river? คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าจะไปที่แม่น้ำนี่ได้อย่างไร?
- Close the door after you please! เข้ามาแล้วกรุณาปิดประตูด้วย
- Come on. I've said sorry a million times. ไม่เอาน่า ฉันพูดขอโทษตั้งล้านครั้งแล้ว
- Come to see me whenever you like! มาหาฉันเมื่อใดก็ตามที่คุณอยากมา
- Could you come here please? คุณช่วยกรุณามานี่หน่อยได้ไหมคะ?
- Could you elaborate? คุณช่วยให้รายละเอียดเพิ่มเติมหน่อยได้ไหม?
- Could you explain it in more details? คุณช่วยอธิบายในรายละเอียดหน่อยมากกว่านี้หน่อยได้ไหม?
- Could you get me some vodka? ขอวอดก้าฉันสักหน่อยได้ไหม?
- Could you give me an example? คุณช่วยให้ตัวอย่างฉันหน่อยได้ไหม?
- Could you make me some tea? คุณช่วยชงชาให้ฉันสักหน่อยได้ไหมคะ?
- Could you pay me in advance? คุณช่วยจ่ายฉันล่วงหน้าได้ไหม?
- Could you provide some details? คุณช่วยให้รายละเอียดบางอย่างได้ไหม?
- Did they have a good time? พวกเขารู้สึกสนุกกันไหม?
- Did you do anything fun? คุณทำอะไรสนุกๆ บ้างหรือเปล่า?
- Did you find everything you needed? คุณได้ทุกสิ่งที่คุณต้องการหรือยัง?
- Did you find what you were looking for? คุณเจอสิ่งที่คุณมองหาอยู่แล้วหรือยัง?
- Did you get it back? คุณได้มันคืนมาหรือยัง?
- Did you hear what I just heard? คุณได้ยินอย่างที่ฉันเพิ่งได้ยินหรือไม่?
- Didn't you get home sick? เธอคิดถึงบ้านบ้างไหม?
- Do you accept credit cards? คุณรับบัตรเครดิตหรือเปล่า?
- Do you have a driver's license? คุณมีใบขับขี่หรือเปล่า?
- Do you have enough money? คุณมีเงินพอไหม?
- Do you hear me? ได้ยินที่ฉันพูดไหม?
- Do you know where the nearest post-office is, please? คุณทราบไหมว่าที่ทำการไปรษณีย์ที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหนหรือ?
- Do you mind if I open the window? คุณจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะเปิดหน้าต่าง?
- Do you mind if I take a picture with your car? คุณจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะขอถ่ายรูปกับรถคุณหน่อย?
- Do you see anything you like? คุณเจอสิ่งที่ชอบหรือยัง?
- Do you want to meet later for a drink? คุณอยากจะมาดื่มด้วยกันทีหลังไหม?
- Does he make you happy? เขาทำให้คุณมีความสุขหรือเปล่า?
- Don’t waste your time. อย่าเสียเวลาเลย
- Don't be ridiculous! อย่าเห็นเป็นเรื่องน่าขันนะ
- Don't be so modest! อย่าถ่อมตนมากนักเลย
- Don't condemn me. Forgive me. อย่าตำหนิฉัน ให้อภัยฉัน
- Don't count on me. อย่าไว้วางใจฉัน
- Don't disappoint me! อย่าทำให้ฉันผิดหวัง
- Don't forget to keep in touch. อย่าลืมติดต่อกันไปเรื่อยๆ นะ
- Don't forget to pick those letters up before you leave. อย่าลืมหยิบจดหมายเหล่านั้นด้วยก่อนคุณออกไปล่ะ
- Don't get me wrong! อย่าเข้าใจฉันผิด
- Don't give up! You can do it. อย่ายอมแพ้ คุณสามารถทำมันได้
- Don't keep me waiting long! อย่าให้ฉันคอยนานล่ะ
- Don't labor at your writing. อย่าพยายามอย่างหนักมากเกินไปกับงานเขียนของคุณ
- Don't let chances pass by! อย่าปล่อยให้โอกาสต่างๆ ผ่านเลยไป
- Don't listen to him. อย่าไปฟังเขา
- Don't start this again! อย่าได้เริ่มเรื่องนี้อีก
- Don't worry mate, you'll be all right. อย่ากังวลเลยเพื่อน นายจะผ่านไปด้วยดี
- Don't worry. Nothing has happened. อย่ากังวลเลย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก
- Don't you blame them? คุณจะไม่ตำหนิพวกเขาใช่ไหม?
- Don't you want to go to the cinema too? คุณไม่อยากไปดูหนังด้วยกันหรือ?
- Either one, it is up to you. ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับคุณ
- Even a child can answer this question. แม้แต่เด็กก็สามารถตอบคำถามนี้ได้
- Every other day. วันเว้นวัน
- Everybody enjoyed themselves at the party. ทุกคนต่างก็สนุกสนานที่งานปาร์ตี้
- Everybody has arrived. ทุกคนมาถึงแล้ว
- Everybody has to pay the same. ทุกคนต้องจ่ายแบบเดียวกันหมด
- Everybody knows where it is. ทุกคนรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน
- Everybody's gone, aren't they? ทุกคนไปกันหมดแล้วใช่ไหม?
- Excuse me, sorry to trouble you. คุณค่ะ ขอโทษด้วยที่รบกวน
- Face up to it. This time, it's over! ยอมรับมาเถอะ ตอนนี้มันสิ้นสุดแล้ว
- First come first served. มาถึงก่อนได้รับบริการก่อน
- First you hate them, then you get used to them. ตอนแรกนายก็เกลียดมัน จากนั้นนายก็จะชินกับมันเอง
- First, you have to give up. ประการแรกนายต้องยอมแพ้ก่อน
- Give me a call when you arrive. โทรหาฉันนะถ้าคุณไปถึงแล้ว
- Give me a minute. Let me read it first. ขอเวลาฉันสักครู่นะ ขอฉันอ่านมันก่อน
- Go out on another date with me? ออกไปเดทกันอีกครั้งกับผมไหม?
- Going back to the topic. กลับมาสู่หัวข้อได้แล้ว
- Great efforts ensure the success of our work. ความพยายามอย่างหนักเป็นหลักประกันความสำเร็จของพวกเรา
- Guess what I'm holding in my hand right now. ทายสิว่าฉันกำลังถืออะไรไว้ในมือตอนนี้
- Guess who just asked me to prom! เดาสิว่าใครเพิ่งจะขอให้ฉันไปงานเต้นรำด้วย
- Has everybody got a sheet? ทุกคนได้เอกสารแล้วหรือยัง?
- Have you lost anything? คุณทำอะไรหายหรือเปล่า?
- Have you lost interest in your friends? คุณไม่สนใจเพื่อนๆ คุณแล้วหรือไง?
- Have you made any friends? เธอได้เพื่อนใหม่บ้างหรือยัง?
- Have you seen my phone? คุณเห็นโทรศัพท์ฉันไหม
- Have you turned off the water? คุณปิดน้ำแล้วหรือยัง?
- He always lags behind the others. เขาตามไม่ทันคนอื่นเสมอ
- He appears older than he really is. เขาดูแก่กว่าที่เขาเป็นจริงๆ
- He asked her to go out with him. เขาขอให้เธอออกไปเที่ยวกับเขา
- He asked me to look after you. เขาขอให้ฉันดูแลคุณ
- He broke his words once again. เขาผิดคำพูดอีกครั้งแล้ว
- He broke off his holiday and returned to his home. เขายกเลิกวันหยุดพักผ่อนแล้วกลับมาบ้าน
- He changed horses in midstream. เขาก็เปลี่ยนใจกลางคัน
- He cheated on his wife. เขานอกใจภรรยา
- He dares not tell us his evil conduct. เขาไม่กล้าบอกพวกเราถึงความประพฤติที่ไม่ดีของเขาหรอก
- He denied wrongdoing. เขาปฏิเสธการกระทำความผิด
- He devoted his life to the study of science. เขาอุทิศชีวิตให้กับการศึกษาวิทยาศาสตร์
- He does everything without aim. เขาทำทุกสิ่งโดยปราศจากเป้าหมาย
- He doesn’t pay much attention to his work. เขาไม่ได้ใส่ใจกับงานของเขามากนัก
- He doesn't allow smoking in the office. เขาไม่อนุญาตให้มีการสูบบุหรี่ในที่ทำงาน
- He doesn't care about me. เขาไม่ได้สนใจฉัน
- He doesn't dare to tell me the truth. เขาไม่กล้าที่จะบอกความจริงกับฉัน
- He fell down and broke his arm. เขาล้มลงแล้วแขนหัก
- He got an A in English. เขาได้ A ในวิชาภาษาอังกฤษ
- He had no idea how to respond. เขาไม่รู้ว่าจะโต้ตอบอย่างไร
- He hardly sleeps at the moment. เขาแทบจะนอนไม่หลับในขณะนี้
- He has been waiting for you for over an hour. เขาคอยคุณมากว่าชั่วโมงแล้ว
- He has his car washed every week. เขานำรถไปล้างทุกสัปดาห์
- He has many strange ideas in his mind. เขามีความคิดแผงๆ มากมายในหัว
- He has such a bad headache that he has to go to bed. เขาปวดหัวมากจนต้องไปนอน
- He hired a workman to repair the fence. เขาจ้างคนงานคนหนึ่งมาซ่อมรั้ว
- He is a weird guy. เขาเป็นผู้ชายที่ประหลาดมาก
- He is an honest person. เขาเป็นคนซื่อสัตย์คนหนึ่ง
- He is anything but punctual. เขาไม่ตรงต่อเวลาเลย
- He is in charge of this class. เขาเป็นคนรับผิดชอบชั้นเรียนนี้
- He is kind. เขาเป็นคนใจดี
- He is not diligent. เขาไม่ขยัน
- He is not entitled to enter this office. เขาไม่ได้รับสิทธิให้เข้ามาในสำนักงานนี้
- He is still at least 30 minutes late every morning. เขาก็ยังคงสายอย่างน้อย 30 นาทีทุกเช้า
- He is studying hard as ever. เขากำลังอ่านหนังสือหนักตามเคย
- He is such an idiot! เขาช่างโง่เง่าจัง
- He is very nice-looking. เขาหน้าตาดีมากๆ
- He is very talented, according to his mother. ตามที่แม่เขาบอก เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากๆ
- He left ten minutes ago. เขาออกไปเมื่อ 10 นาทีมาแล้ว
- He lived abroad for many years. เขาอาศัยอยู่ต่างประเทศหลายปี
- He looks like he is in pain. เขาดูเหมือนเขาจะป่วย
- He loves to gossip Rose behind her back. เขาชอบนินทาโรสลับหลัง
- He made her a toy house. เขาทำบ้านของเล่นให้เธอ
- He made his first remarks in the public. เขาให้ข้อคิดเห็นเป็นครั้งแรกในที่สาธารณะ
- He made up an excuse. เขาสร้างเรื่องแก้ตัว
- He never misses a chance to see a movie. เขาไม่เคยพลาดโอกาสที่จะดูหนังเลย
- He paid no attention to my advice. เขาไม่สนใจคำแนะนำของฉัน
- He plans to go abroad next year. เขาวางแผนที่จะไปต่างประเทศปีหน้า
- He says he knows nothing about her. เขาบอกว่าเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเธอ
- He still hasn't asked her to marry him. เขายังคงไม่ขอเธอแต่งงาน
- He thinks he is somebody, but we think he is nobody. เขาคิดว่าเขาเป็นคนสำคัญ แต่พวกเราคิดว่าเขาไม่สำคัญอะไรเลย
- He thinks that I am too tired to work. เขาคิดว่าฉันเหนื่อยเกินกว่าที่จะทำงาน
- He turned his attention to his book. เขาหันความสนใจกลับมาที่หนังสือของเขา
- He used to be a heavy smoker. เขาเคยเป็นคนที่สูบบุหรี่หนัก
- He used to go fishing with us during the summer. เขาเคยไปตกปลากับเราในช่วงหน้าร้อน
- He used to learn everything by rote. เขาเคยเรียนทุกสิ่งโดยการท่องจำ
- He ushered the guests to their seats. เขานำแขกไปยังที่นั่ง
- He walked quickly along the road. เขาเดินไปตามถนนอย่างรวดเร็ว
- He wants to rent a house. เขาต้องการเช่าบ้านสักหลัง
- He was a great artist. เขาเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่
- He was married to a friend of mine. เขาแต่งงานกับเพื่อนคนหนึ่งของฉัน
- He was resigned to his fate. เขายอมจำนนต่อโชคชะตา
- He was too nervous to speak. เขาประหม่าเกินกว่าที่จะพูด
- He will blame you for carelessness. เขาจะตำหนิคุณที่สะเพร่า
- He will not give us permission. เขาจะไม่ให้อนุญาตพวกเรา
- He would like his son to go to single-sex school. เขาอยากให้ลูกชายไปโรงเรียนชาย
- Hello, I’ve been sent to take you. สวัสดีครับ ผมถูกส่งให้มารับคุณ
- He's a really interesting guy. เขาเป็นหนุ่มที่น่าสนใจจริงๆ
- He's a terrible man when he's angry. เขาเป็นคนที่น่ากลัวตอนที่เขาโกรธ
- He's admitted he was wrong. เขายอมรับว่าเขาผิด
- He's done his homework. เขาทำการบ้านเสร็จแล้ว
- He's missing his friends. เขากำลังคิดถึงเพื่อน
- He's nothing to me but an empty seat. เขาไม่สำคัญอะไรสำหรับฉันเป็นแค่เก้าอี้ว่างเปล่า
- He's on the phone. เขาติดสายอยู่
- He's quite shy really. จริงๆ แล้วเขาค่อนข้างขี้อาย
- He's scared of making mistakes. เขากลัวการทำผิดพลาด
- He's seeing someone else. เขากำลังคบหากับบางคนอยู่
- He's such an idiot! เขาช่างทึ่มอะไรอย่างนั้น
- He's told us all about you. เขาบอกพวกเราเกี่ยวกับคุณหมดแล้ว
- Hey this will put a smile on your face. เฮ้ นี่จะทำให้คุณยิ้มได้
- His cake is four times as big as mine. เค็กของเขาใหญ่กว่าของฉันถึงสี่เท่า
- His house is quite sizable. บ้านของเขาค่อนข้างใหญ่มาก
- His previous attempt had been unsuccessful. ความพยายามครั้งก่อนของเขาไม่ประสบผลสำเร็จ
- His relationship with this company has been of long-standing. ความสัมพันธ์ของเขากับบริษัทนี้มีมายาวนาน
- How about going to the cinema? ไปดูหนังเป็นไง?
- How are you feeling today? คุณรู้สึกอย่างไรบ้างวันนี้?
- How can I return your money? ฉันจะคืนเงินให้คุณได้อย่างไร?
- How did you find out? คุณทราบได้อย่างไร?
- How did your first day go? วันแรกของคุณเป็นไงบ้าง?
- How do we stop him? พวกเราจะหยุดเขาได้อย่างร?
- How do you spell your name? ชื่อของคุณสะกดอย่างไรหรือ?
- How long are you going for? คุณจะไปนานแค่ไหน?
- How long did it take you to speak English? คุณใช้เวลานานแค่ไหนในการพูดภาษาอังกฤษได้?
- How long does it take from Bangkok to Korat? จากกรุงเทพฯไปโคราชใช้เวลานานเท่าไหร่?
- How long have you been in this country? คุณอยู่ที่ประเทศนี้มานานแค่ไหนแล้ว?
- How long have you been like this? คุณเป็นอย่างนี้มานานแค่ไหนแล้ว?
- How long have you been working here? คุณทำงานที่นี่มานานแค่ไหน?
- How long will it take to learn a language? ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเรียนภาษา?
- How many children do you have? คุณมีลูกกี่คนหรือ?
- How many cigarette do you smoke a day? คุณสูบบุหรี่มากแค่ไหนต่อวัน?
- How many languages can you speak? คุณพูดได้กี่ภาษาหรือ?
- How many students are there in your class? มีนักเรียนกี่คนในชั้นเรียนของคุณ?
- How many times do I have to say this? ฉันต้องพูดอย่างนี้กี่ครั้งกี่หนแล้ว?
- How much did you pay for it? คุณจ่ายไปเท่าไหร่หรือ?
- How much time do you need to prepare for this exam? เธอต้องการเวลามากเท่าไหร่ในการเตรียมการสอบนี้?
- How much time does it take to write a book? ต้องใช้เวลามากเท่าไหร่ในการเขียนหนังสือสักเล่ม?
- How much time does it take? มันต้องใช้เวลามากเท่าไหร่?
- How much time it will take you to prepare for your exam? เธอต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการเตรียมตัวสำหรับการสอบ?
- How often do you change your toothbrush? คุณเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยแค่ไหน?
- How often do you come to class late? คุณเข้าชั้นเรียนสายบ่อยแค่ไหน?
- How often do you go to the movie? คุณไปดูหนังบ่อยแค่ไหน?
- How often do you play cards? คุณเล่นไพ่บ่อยแค่ไหน?
- How should I know? ฉันจะรู้ได้อย่างไร?
- How was your weekend? วันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณเป็นไงบ้าง?
- I accept that you will never love me. ฉันยอมรับว่าคุณจะไม่มีทางรักฉันเลย
- I accept your excuse for being late. ฉันยอมรับคำแก้ตัวในการมาสายของคุณ
- I admit it was my mistake. ฉันยอมรับว่ามันเป็นความผิดของฉัน
- I advise you to control yourself. ฉันแนะนำให้คุณควบคุมตัวเอง
- I am a little bit tired after a long journey. ฉันเหนื่อยนิดหน่อยหลังการเดินทางยาวนาน
- I am afraid he would jump bail. ฉันเกรงว่าเขาอาจหนีประกัน
- I am glad to see you're well. ฉันดีใจที่เห็นว่าคุณสบายดี
- I am grateful for your help. ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณ
- I am having so many things to tell you. ฉันมีเรื่องราวต่างๆ มากมายที่อยากจะบอกคุณ
- I am in charge of the company when the manager is out. ฉันดูแลรับผิดชอบบริษัทนี้เมื่อผู้จัดการไม่อยู่
- I am not afraid of your opinion. ฉันไม่กลัวความเห็นของคุณ
- I am not comfortable answering personal questions. ฉันไม่สะดวกที่จะตอบคำถามในเรื่องส่วนตัว
- I am ready to resign from my office. ฉันพร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่งของฉัน
- I am sorry to bother you. ฉันขอโทษด้วยที่รบกวนคุณ
- I am sorry. I have to admit I told him. ฉันขอโทษด้วย ฉันยอมรับว่าฉันบอกเขา
- I am troubled by those problems. ฉันเป็นทุกข์กับปัญหาเหล่านั้น
- I assure you that you will feel no pain at all. ฉันขอรับรองกับคุณว่าคุณจะไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด
- I attended elementary school in… ฉันเข้าโรงเรียนประถมศึกษาที่...
- I barely escaped the collapsing building. ฉันเกือบจะหนีรอดออกมาจากตึกที่ถล่มลงมาแทบไม่ทัน
- I can accept constructive criticism. ฉันสามารถยอมรับคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ได้
- I cannot put up with my noisy roommates. ฉันทนกับเพื่อนร่วมห้องที่ส่งเสียงดังไม่ได้
- I can't afford better food. ฉันไม่สามารถซื้ออาหารดีๆ ทานได้
- I can't afford the time for a course. ฉันไม่สามารถหาเวลามาเรียนสักหลักสูตรได้
- I can't find anybody to help me. ฉันไม่สามารถหาใครมาช่วยฉันได้
- I can't help feeling it. มันช่วยไม่ได้ที่ฉันรู้สึกอย่างนั้น
- I can't keep thinking about you. ฉันไม่สามารถคิดถึงคุณต่อไปได้อีก
- I can't make this machine run properly. ฉันไม่สามารถทำให้เครื่องยนต์นี้ทำงานอย่างเต็มที่ได้
- I can't put up with that noise anymore. ฉันไม่สามารถจะทนต่อเสียงพวกนั้นได้อีกแล้ว
- I can't wait any longer. ฉันไม่สามารถคอยต่อไปอีกแล้ว
- I caught you out myself. ฉันจับคุณได้คาหนังคาเขา
- I could hardly speak. ฉันแทบพูดอะไรไม่ออก
- I couldn't believe my ears. ฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
- I couldn't believe what I was hearing. ฉันไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ฉันได้ยิน
- I couldn't help it. มันช่วยไม่ได้
- I count you as one of my friends. ฉันถือว่าคุณเป็นหนึ่งในเพื่อนๆ ของฉัน
- I decided not to tell anyone. ฉันตัดสินใจที่จะไม่บอกใคร
- I did very badly in my practice test last week. ฉันทำได้แย่มากๆ ตอนสอบปฏิบัติสัปดาห์ที่ผ่าน
- I didn't care no more about him. ฉันไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว
- I didn't deserve it, either. ฉันไม่สมควรได้รับมันเช่นกัน
- I didn't plan it this way. ฉันไม่ได้วางแผนให้เป็นแบบนี้เลย
- I do hope you can help me. ฉันหวังจริงๆ ว่าคุณจะช่วยฉันได้
- I don’t know where to start. ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร
- I don't care whether it rains or not. ฉันไม่สนใจว่าฝนจะตกหรือไม่
- I don't ever want to speak to you again. ฉันไม่เคยอยากจะพูดกับคุณอีกเลย
- I don't have that problem. ฉันไม่เคยมีปัญหาอย่างนั้น
- I don't know how to cook. ฉันทำอาหารไม่เป็น
- I don't know how to express my gratitude. ฉันไม่ทราบว่าจะแสดงความรู้สึกซาบซึ้งใจได้อย่างไร
- I don't know the details. ฉันไม่ทราบรายละเอียด
- I don't know where my money goes. ฉันไม่รู้ว่าเงินของฉันหายไปไหน
- I don't like what you are saying. ฉันไม่ชอบสิ่งที่คุณกำลังพูดนี่
- I don't really know anything about cars. ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับรถเลยจริงๆ
- I don't recall what I got for my first Christmas. ฉันนึกไม่ออกว่าได้อะไรในวันฉลองคริสต์มาสต์ครั้งแรกของฉัน
- I don't see what you mean. ฉันไม่ทราบว่าคุณหมายความว่าอย่างไร?
- I don't think I can go on without you. ฉันไม่คิดว่าฉันจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีคุณได้
- I don't think it will lead to a good result. ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นผลดีอะไร
- I don't think you should carry on doing that. ฉันคิดว่าคุณไม่ควรทำสิ่งนั้นต่อ
- I don't want to talk about it any more. ฉันไม่อยากจะพูดถึงมันอีกต่อไป
- I doubt whether I should believe him. ฉันไม่แน่ใจว่าฉันควรจะเชื่อเขาดีไหม
- I feel a bit uneasy when I walked home in the dark. ฉันรู้สึกเป็นกังวลเมื่อต้องเดินกลับบ้านในที่มืด
- I found a good car for you. ฉันหารถดีๆ คันหนึ่งให้คุณได้แล้ว
- I give up on him. ฉันตัดหางปล่อยวัดเขาแล้ว
- I got a special bonus at work. ฉันได้โบนัสพิเศษจากที่ทำงาน
- I gradually made quite a few friends. ฉันก็ค่อยๆ ทำความรู้จักกับเพื่อน 2-3 คนบ้างแล้ว
- I graduated from high school there. ฉันจบโรงเรียนในชั้นมัธยมปลายที่นั่น
- I had an appointment with a dentist. ฉันมีนัดกับหมอฟัน
- I have a lot in common with my sister. ฉันมีอะไรเหมือนกับพี่สาวของฉันมาก
- I have a terrible hangover. ฉันเมาค้างอย่างหนัก
- I have another call coming in. ฉันมีอีกสายเข้ามา
- I have asked him so many times to arrive on time. ฉันขอร้องเขาหลายครั้งให้มาตรงเวลา
- I have been here 3 times before. ฉันเคยมาที่นี่ 3 ครั้งมาก่อน
- I have given up on him; he never does what he promises. ฉันเลิกเชื่อถือเขาแล้ว เขาไม่เคยทำสิ่งที่เขาสัญญาได้เลย
- I have my exam today. วันนี้ฉันมีสอบ
- I have no choice. ฉันไม่มีทางเลือก
- I have no time for such things. ฉันไม่มีเวลาสำหรับเรื่องพวกนั้น
- I have to do extra work at night time. ฉันต้องทำงานพิเศษในตอนกลางคืน
- I have to say it was a great year for me. ฉันคงต้องพูดว่ามันเป็นปีที่เยี่ยมมากสำหรับฉัน
- I haven't decided whether to take the job or not. ฉันยังไม่ตัดสินใจเลยว่าจะรับงานนั้นหรือไม่
- I haven't done anything wrong. ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
- I haven't done it before. ฉันไม่เคยทำมันมาก่อน
- I haven't had anything to eat since I arrived. ฉันยังไม่ได้ทานอะไรนับตั้งแต่มาถึง
- I haven't heard of them. ฉันไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
- I heard what he was saying. ฉันได้ยินที่เขาพูด
- I hope you enjoy your stay with us. ฉันหวังว่าคุณจะชอบที่ได้มาพักอยู่กับเรา
- I hope you have another great year next year. ฉันหวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ยอดเยี่ยมอีกปีหนึ่งของคุณนะ
- I hope you will understand that. ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจเรื่องนั้น
- I hurt my elbow. ฉันเจ็บข้อศอก
- I imagine someone must have made a mistake. ฉันคิดว่าใครบางคนต้องทำอะไรผิดพลาด
- I just want to know the truth. ฉันแค่อยากจะทราบความจริง
- I knew for a certainty that his real name is Smith. ฉันทราบเป็นที่แน่นอนแล้วว่าชื่อจริงๆ ของเขาคือสมิธ
- I knew the answer as soon as she asked the question. ฉันทราบคำตอบแล้วในทันทีที่เธอถามคำถาม
- I know all about your other lady. ฉันรู้เกี่ยวกับผู้หญิงคนอื่นของคุณหมดแล้ว
- I live among the mountains. พวกเขาอาศัยอยู่ในท่ามกลางภูเขา
- I lost my job almost 6 months ago. ฉันตกงานมากว่า 6 เดือนแล้ว
- I made a terrible mistake tonight. ฉันทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงคืนนี้
- I make a promise to myself. ฉันสัญญากับตัวเอง
- I might be able to help you with that. ฉันอาจจะสามารถช่วยคุณเรื่องนั้นได้
- I must leave you now. Make yourselves at home. ฉันต้องไปก่อน ทำตัวตามสบายนะ
- I must try not to do it any more. ฉันจะต้องไม่พยายามทำมันอีกต่อไป
- I need a bit of advice from you. ฉันต้องการคำแนะนำจากคุณสักหน่อย
- I need to study. ฉันต้องอ่านหนังสือ
- I need to talk to you about something. ฉันอยากพูดกับคุณบางเรื่อง
- I never had any problem. ฉันเคยมีปัญหาใดใด
- I never thought of it before. ฉันไม่เคยคิดถึงมันมาก่อน
- I often leave my house at seven. ฉันมักจะออกจากบ้านตอนเจ็ดโมง
- I often walk to work. ฉันมักจะเดินไปทำงาน
- I only bought it two weeks ago. ฉันเพิ่งซื้อมันมาได้สองสัปดาห์นี่เอง
- I only found out last week that she's getting married. ฉันก็แค่ทราบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเธอกำลังจะแต่งงาน
- I paid no attention to her at all ฉันไม่ได้ให้ความสนใจกับเธอเลยแม้แต่น้อย
- I promise I will always do my best. ฉันสัญญาว่าฉันจะทำให้ดีที่สุดเสมอ
- I promise, it won't make any difference to us! ฉันสัญญาว่า ทุกอย่างจะเหมือนเดิมสำหรับเรา
- I put my phone down somewhere and now I can't find it. ฉันวางโทรศัพท์ไว้ที่ไหนสักแห่งและตอนนี้ฉันหามันไม่เจอ
- I really believe in him. ฉันเชื่อในตัวเขาจริงๆ
- I really don't care. ฉันไม่สนใจจริงๆ
- I really like you but I'm not ready to settle down. ฉันชอบคุณจริงๆ นะ แต่ฉันยังไม่พร้อมที่จะปักหลัก
- I really think you should stop. ฉันคิดว่าจริงๆ แล้วคุณควรเลิกทำมันไปเลย
- I received an invitation, but I did not accept it. ฉันได้รับคำเชิญ แต่ฉันไม่ได้ตอบรับ
- I resign myself to failure. ฉันยอมให้ตนเองล้มเหลว
- I saw it with my own eyes. ฉันเห็นมันกับตาตัวเอง
- I see, and she's not bad looking, I suppose? ฉันเข้าใจแล้ว และคิดว่าเธอก็หน้าตาดีด้วยใช่ไหม?
- I should have told them about the danger. ฉันควรจะบอกพวกเขาถึงอันตรายนั่น
- I spent only half an hour in the town. ฉันใช้เวลาแค่เพียงครึ่งชั่วโมงในเมือง
- I stayed home and cleaned my room. ฉันอยู่ที่บ้านและทำความสะอาดห้อง
- I still think you should tell him. ฉันยังคงคิดว่าคุณควรจะบอกเขา
- I think he is nonsense. ฉันคิดว่าเขาไร้สาระ
- I think I'm going to be sick. ฉันคิดว่า ฉันกำลังจะป่วย
- I think it would be wrong for me... ฉันคิดว่ามันอาจจะเป็นการไม่ถูกต้องสำหรับฉัน...
- I think I've filled in everything correctly. ฉันคิดว่าฉันได้เติมทุกสิ่งถูกต้องหมดแล้ว
- I think I've found something of yours. ฉันคิดว่า ฉันพบบางสิ่งบางอย่างของคุณ
- I think she kind of likes me. ฉันคิดว่าเธอค่อนข้างชอบฉันนะ
- I think we should get something to eat. ฉันคิดว่าพวกเราควรหาอะไรบางอย่างทาน
- I think we should leave these two alone. ฉันคิดว่าเราควรปล่อยพวกเขาสองคนไว้ตามลำพัง
- I think we've been getting on well together. ฉันคิดว่าพวกเราเข้ากันได้ดี
- I thought I give you a ring. ฉันคิดว่าฉันน่าจะโทรหาคุณ
- I thought that might have taken long times. ฉันคิดว่านั่นอาจต้องใช้เวลานาน
- I tried new thing, thing that I never tried before. ฉันพยายามทำสิ่งใหม่ที่ฉันไม่เคยทำมาก่อน
- I wanna know certain things first! ฉันต้องการทราบบางสิ่งก่อน
- I want to meet someone who gorgeous, funny and rich. ฉันอยากเจอใครบางคนที่หล่อ ตลก และก็รวย
- I want to see an end to the troubles. ฉันอยากเห็นการสิ้นสุดของปัญหาต่างๆ
- I want us to trust each other. ฉันต้องการให้พวกเราเชื่อใจกันและกัน
- I want you to be serious now. ฉันอยากให้คุณเอาจริงเอาจังตอนนี้
- I want you to finish this by tomorrow. ฉันอยากให้คุณทำงานนี่ให้เสร็จภายในพรุ่งนี้
- I want you to promise me something. ฉันอยากขอให้คุณให้สัญญากับฉันบางอย่าง
- I was alone but not lonely. ฉันอยู่ตามลำพังแต่ก็ไม่โดดเดี่ยว
- I was born in Chiangmai in 1984. ฉันเกิดในเชียงใหม่ ในปี ค.ศ. 1984
- I was expecting at least 92 percent. ฉันคาดหมายไว้อย่างน้อย 92 เปอร์เซ็นต์
- I was studying before you phoned me. หนูก็กำลังศึกษาอยู่ก่อนที่แม่โทรมาหา
- I will be back by the end of next month. ฉันจะกลับมาราวปลายเดือนหน้า
- I will be more careful. ฉันจะระวังให้มากขึ้น
- I will leave for India in June. ฉันจะออกเดินทางไปอินเดียในเดือนมิถุนายน
- I will live in the farm for the remainder of my life. ฉันจะอาศัยอยู่ในฟาร์มตลอดชีวิตที่เหลืออยู่
- I will never forget it. ฉันจะไม่ลืมมันเลย
- I wish I could do something different. ฉันปรารถนาให้ตนเองทำอะไรบางสิ่งที่แตกต่าง
- I wish I had been on time for school. ฉันขอให้ไปโรงเรียนตรงเวลา
- I wish I had passed the exam. ฉันขอให้ตนเองสอบผ่าน
- I wish I had remembered to set my alarm. ฉันขอให้ตัวเองจำได้ว่าต้องตั้งนาฬิกาปลุก
- I wish I hadn't been late for school. ฉันขอให้ตัวเองอย่าไปโรงเรียนสาย
- I wish I hadn't failed the exam. ฉันขอให้ตนเองไม่สอบตก
- I wish I hadn't forgotten to set my alarm. ฉันขอให้ตัวเองไม่ลืมตั้งนาฬิกาปลุก
- I wish I hadn't slept late. ฉันขอให้ตนเองอย่านอนดึก
- I won’t change my mind. ฉันจะไม่เปลี่ยนใจ
- I wonder if it would be possible to reduce the rent a little bit? ฉันอยากจะทราบว่าพอจะเป็นไปได้ไหมที่จะลดค่าเช่าลงสักหน่อย?
- I wonder what's wrong. ฉันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
- I won't take much of your time. ฉันจะไม่ทำให้คุณเสียเวลามากนัก
- I would be very grateful if you would help me. ฉันจะสำนึกในบุญคุณเป็นอย่างมากถ้าคุณช่วยฉัน
- I would like to express my grateful thank to you. ฉันอยากจะแสดงความขอบคุณต่อคุณเป็นอย่างยิ่ง
- I would like to express my sincere thank to them. ฉันอยากจะแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อพวกเขา
- I would like to gain real life work experience. ฉันอยากจะได้ปะสบการณ์การทำงานจากชีวิตจริง
- I would like to have fish for dinner. ฉันอยากจะทานปลาเป็นอาหารเย็น
- I would like to tell you that… ฉันอยากจะบอกกับคุณว่า
- I would never cheat on you. ฉันจะไม่มีวันนอกใจคุณ
- I would rather you didn't tell him. ฉันไม่อยากให้คุณบอกเขาเลย
- I would really like to study computer. ฉันอยากเรียนคอมพิวเตอร์จริงๆ
- I’ll miss my friends. ฉันคงจะคิดถึงเพื่อนๆ
- I’ve been afraid of your reaction. ฉันกลัวปฏิกิริยาของคุณ
- I'd like to book two tickets for next week. ฉันอยากจะจองตั๋วหนังสองที่สำหรับสัปดาห์หน้า
- I'd like us to be better friends. ฉันอยากให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากขึ้น
- I'd love to, but I have to work a night shift next weekend. ฉันก็อยากจะมา แต่ฉันต้องทำงานกะกลางคืนในสุดสัปดาห์หน้า
- If you don't work, you'll fail to pass the exam. ถ้าเธอไม่อ่านหนังสือ เธอก็จะสอบไม่ผ่าน
- If you jump the queue you will make yourself unpopular. ถ้าคุณลัดคิว คุณจะทำให้ตัวเองไม่เป็นที่ชื่นชอบ
- If you need a place to park, use one of these spaces. ถ้าคุณต้องการที่สำหรับจอดรถ ใช้ที่ว่างสักที่นี่สิ
- If you want to be served prior to anyone else. ถ้าคุณอยากจะได้รับบริการก่อนคนอื่นๆ
- If you would only try, you could do it. ถ้าเพียงแต่เธอพยายาม เธอก็สามารถทำมันได้
- I'll be with you in a minute or two. ฉันจะมาหาคุณในอีกสักครู่
- I'll buy some later today. ฉันจะซื้อบางส่วนทีหลังในวันนี้
- I'll get off in 10 minutes. ฉันจะเลิกงานใน 10 นาทีนี่แหล่ะ
- I'll send someone with you. ฉันจะส่งใครบางคุณไปกับคุณ
- I'll try my best. ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุด
- I'm a bit curious about this. ฉันอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้
- I'm afraid that I cannot help you. ฉันเกรงว่าฉันไม่สามารถช่วยคุณได้
- I'm asking for your opinion. ฉันกำลังถามความเห็นของคุณ
- I'm feeling a bit better today. วันนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย
- I'm feeling healthy now. ตอนนี้ฉันรู้สึกแข็งแรงดีแล้ว
- I'm finding it's difficult to make up my mind. ฉันพบว่ามันยากที่จะตัดสินใจ
- I'm frightened of spiders. ฉันกลัวแมงมุม
- I'm going back to Bangkok for good. ฉันจะกลับไปกรุงเทพฯ อย่างถาวร
- I'm going back to my home to look after my dad. ฉันจะกลับไปบ้านไปดูแลพ่อ
- I'm going to give up fast food. ฉันจะเลิกทานอาหารจานด่วน
- I'm going to see a film tonight. ฉันกำลังจะไปดูหนังคืนนี้
- I'm going to visit my uncle next summer. ฉันจะไปเยี่ยมลุงของฉันในหน้าร้อนนี้
- I'm having a really good time. ฉันสนุกจริงๆ
- I'm kind of happy that school has finished. ฉันค่อนข้างมีความสุขที่โรงเรียนปิดเทอมแล้ว
- I'm kind of hungry. ฉันค่อนข้างหิวน่ะ
- I'm looking for a man's watch. ฉันกำลังมองหานาฬิกาข้อมือสำหรับผู้ชาย
- I'm looking for a very special gift for a very special person. ฉันกำลังมองหาของขวัญพิเศษมากๆ สำหรับคนที่พิเศษมากๆ
- I'm lucky I found you first. โชคดีที่ฉันเจอคุณเป็นคนแรก
- I'm not a bit hungry. ฉันไม่หิวสักนิด
- I'm not sure whether I have locked the door. ฉันไม่แน่ใจว่าฉันได้ล็อคประตูหรือเปล่า
- I'm on the phone with Jim. ฉันติดสายกับจิมอยู่
- I'm really beginning to run out of money. เงินของฉันเริ่มจะหมดแล้วจริงๆ
- I'm really kind of embarrassed. ฉันค่อนข้างกระดากอายจริงๆ
- I'm seeing somebody now. ฉันกำลังคบหากับใครบางคนอยู่ตอนนี้
- I'm single just now. ฉันเป็นโสดอยู่ในตอนนี้
- I'm so broke just now. ฉันถังแตกอย่างมากในตอนนี้
- I'm so miserable! ฉันรู้สึกทุกข์ระทมเหลือเกิน
- I'm so sorry you've been inconvenienced. ขอโทษด้วยที่คุณได้รับความไม่สะดวก
- I'm sorry to have bothered you. ฉันขอโทษด้วยที่รบกวนคุณ
- I'm sorry, but I don't understand. ขอโทษด้วย ฉันไม่เข้าใจค่ะ
- I'm sorry, he's out in the morning. เสียใจด้วยค่ะ เขาออกไปในตอนเช้าแล้ว
- I'm sorry. I didn't mean to question you. ฉันขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะสงสัยคุณ
- I'm sure they did. ฉันแน่ใจว่าพวกเขาสนุก
- I'm sure we can help you. ฉันแน่ใจว่าพวกเราจะช่วยคุณได้
- I'm thinking about my career. ฉันกำลังคิดถึงอาชีพของฉันอยู่
- I'm tired and you'd better start back home. ฉันเหนื่อยและคุณก็ควรจะกลับบ้านไปได้แล้ว
- I'm tired of my wife's unceasing complaints. ฉันเหนื่อยหน่ายกับการบ่นไม่มีหยุดของภรรยา
- I'm totally against him. ฉันต่อต้านเขาอย่างเต็มที่
- I'm trying to give up fast food. ฉันจะพยายามเลิกทานอาหารจานด่วน
- I'm writing a paper on him. ฉันกำลังเขียนบทความเกี่ยวกับเขา
- In order to meet all expenses in the big family. เพื่อให้มีเงินพอเพียงสำหรับรายจ่ายทั้งหมดในครอบครัวขนาดใหญ่
- In that case, there's only one explanation. ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็มีคำอธิบายเพียงประการเดียว
- Is it safe to swim here? มันปลอดภัยที่จะว่ายน้ำที่นี่ไหม?
- Is it true that you went to boarding school? เป็นความจริงหรือที่เธอไปเข้าโรงเรียนประจำ?
- Is it worth seeing? มันดีพอที่จะไปชมไหม?
- Is that your sister over there? นั่นน้องสาวคุณอยู่ที่นั่นหรือ?
- Is the film good? (Is it any good?) หนังเรื่องนี้ดีไหม?
- Is there anything you want to say to me? คุณมีอะไรจะพูดกับฉันอีกหรือเปล่า?
- Is there something wrong? มีอะไรผิดปกติหรือ? เกิดอะไรขึ้นหรือ?
- Is there something you want to talk about? เธออยากพูดเกี่ยวกับอะไรอีกไหม?
- It does not matter what you believe. มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณเชื่อในสิ่งใด
- It does not take long. มันใช้เวลาไม่นานนัก
- It doesn't rain much there, does it? ที่นั่นฝนไม่ตกมากนักใช่ไหม?
- It has an effect on my health. ฉันได้รับผลกระทบในด้านสุขภาพ
- It is a long time since we've been here. พวกเรามาอยู่ที่นี่นานแล้ว
- It is no use learning without thinking. ไม่มีประโยชน์ที่จะเรียนรู้โดยปราศจากการคิด
- It is rather difficult to write good and correct sentences. มันค่อนข้างยากที่จะเขียนประโยคให้ดีและถูกต้อง
- It is really romantic. มันช่างโรแมนติกจริงๆ
- It is unclear precisely what happened with him. มันไม่ชัดเจนแน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
- It is up to you to determine your future. มันขึ้นอยู่กับคุณที่จะกำหนดอนาคตของตนเอง
- It looks like one we used to play when we were children. มันดูเหมือนเกมที่พวกเราเคยเล่นเมื่อตอนเด็กๆ
- It must be time for tea! Let's talk later. ถึงเวลาดื่มชาแล้ว ไว้คุยกันทีหลังนะ
- It seemed as if there was no way out. มันดูเหมือนว่าไม่มีทางออกเลย
- It takes about 3 hours by bus. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยรถบัส
- It takes about 40 minutes by plane. ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยเครื่องบิน
- It takes about three hours. มันต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
- It takes you about 20 minutes to drive there. คุณใช้เวลาขับรถไปที่นั่นราว 20 นาที
- It took him a little time to fix that watch. เขาใช้เวลาเล็กน้อยในการซ่อมนาฬิกานั่น
- It took me about five years to speak English. ฉันใช้เวลาราว 5 ปีในการพูดภาษาอังกฤษ
- It took us three hours to go to Hua Hin. พวกเราใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงไปถึงหัวหิน
- It was a very good learning experience. มันเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีมากๆ
- It wasn't? Oh, I thought it was. มันไม่ใช่หรือ? โอ ฉันคิดว่ามันใช่?
- It would be really nice if you could join us. มันคงจะดีนะถ้าคุณได้ร่วมวงกับเรา
- It’s a bit strange. มันแปลกประหลาดเล็กน้อย
- It's a good idea not to work too much. เป็นความคิดที่ดีที่ไม่ต้องทำงานหนักมากนัก
- It's a one-way ticket I’ve booked. ฉันจองตั๋วขาเดียวไว้
- It's a secret between you and me. มันเป็นความลับระหว่างคุณกับฉัน
- It's almost a year since I came to live here. เกือบหนึ่งปีแล้วที่ฉันมาอยู่ที่นี่
- It's been over for a long time. มันจบลงนานแล้ว
- It's best to be open-minded. มันดีที่สุดที่จะเปิดรับความเห็นคนอื่น/เปิดใจ
- It's boring to see the same film again. มันน่าเบื่อที่ต้องดูหนังเรื่องเดิมอีก
- It's difficult for him to get up early. มันยากสำหรับเขาที่จะตื่นแต่เช้า
- It's easy to find. Ask anyone. มันง่ายที่จะค้นหา ถามใครก็ได้
- It's essential to go to school. เป็นความจำเป็นที่ต้องไปโรงเรียน
- It's foggy. It's hot. It's cold. มีหมอก ร้อน หนาว
- It's good for both of us to practice. มันดีสำหรับเราสองคนที่จะได้ฝึกฝน
- It's impossible to speak English like a native speaker. มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดภาษาอังกฤษอย่างคนที่ใช้ภาษาอังกฤษมาแต่เกิด
- It's interesting in its own way. มันน่าสนใจในแบบของมัน
- It's just nice to see you smiling. ดีที่ได้เห็นคุณยิ้ม
- It's just what I need. นั่นแหล่ะคือสิ่งที่ฉันต้องการ
- It's kind of hot, but it's very tasty. มันค่อนข้างร้อน แต่ก็อร่อยมาก
- It's nice to be back. ดีจังที่ได้กลับมา
- It's not difficult for me to speak English, มันไม่ยากสำหรับฉันที่จะพูดภาษาอังกฤษ
- It's not so easy as you think. มันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดหรอกนะ
- It's not too late to change your mind. มันยังไม่สายเกินไปที่คุณจะเปลี่ยนใจ
- It's not true! He's making it up. มันไม่จริงนะ เขากุเรื่องขึ้นมา
- It's one of my favorites. มันเป็นหนึ่งในของโปรดของฉัน
- It's pretty comfortable and very convenient. ค่อนข้างสะดวกสบายมาก
- It's raining so you need to use your umbrella. ฝนกำลังตกอยู่ ดังนั้นคุณต้องใช้ร่ม
- It's rude to stare at other people. การจ้องมองคนอื่นนั้นไม่สุภาพ
- It's so nice to have you around. ดีจังที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ
- It's so quiet at work. ที่ทำงานเงียบเหงามากเหลือเกิน
- It's still under guarantee. มันยังคงอยู่ในระยะประกัน
- It's stormy. It's frozen. It's cloudy. มีพายุ หนาวยะเยือก/หนาวจัด มีเมฆหมอก
- It's stupid to discuss with that guy. ไร้สาระที่จะมาถกเถียงกับคนอย่างนั้น
- It's sunny. It's rainy. It's snowy. แดดออก ฝนตก หิมะตก
- It's the best experience ever. มันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่เคยมีมา
- It's the third time I’ve told you. เป็นครั้งที่สามแล้วที่ฉันบอกกับคุณ
- It's time for me to look after myself more. ถึงเวลาแล้วที่ฉันต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น
- It's time to stop working so hard. ถึงเวลาต้องหยุดทำงานอย่างหนักซะที
- It's too painful. มันเจ็บปวดมาก
- It's warm. It's humid. It's windy. อบอุ่น ชุ่มชื้น มีลมแรง
- I've already had a bit, thank you. ฉันทานไปนิดหนึ่งแล้ว ขอบคุณ
- I've already heard the news. ฉันได้ยินข่าวนั่นแล้ว
- I've become more patient than before. ฉันกลายเป็นคนที่อดทนมากกว่าเมื่อก่อน
- I've been trying to tell you this for weeks. ฉันพยายามจะบอกสิ่งนี้กับคุณมาเป็นสัปดาห์แล้ว
- I've come to see the show. ฉันมาเพื่อดูการแสดง
- I've decided to cancel lunch. ฉันได้ตัดสินใจยกเลิกอาหารเที่ยง
- I've give up on algebra. ฉันเลิกหวังกับวิชาพีชคณิตแล้ว
- I've got a bit of a temperature. ฉันมีไข้เล็กน้อย
- I've got a pain stomach. ฉันปวดท้อง
- I've got loads of studying to do. ฉันมีเรื่องเรียนมากมายที่ต้องทำ
- I've got to get back to the flat. ฉันต้องกลับไปที่แฟลตแล้ว
- I've got too much work to do. ฉันมีงานมากเหลือเกินที่ต้องทำ
- I've known about it for a very long time. ฉันรู้เกี่ยวกับมันมานานแล้ว
- I've lived here my whole life. ฉันอยู่ที่นี่มาตลอดชีวิต
- I've never seen anyone study so hard. ฉันไม่เคยเห็นใครเรียนหนักขนาดนี้
- I've really enjoyed your company today. ฉันสนุกจริงๆ ที่คุณมาเป็นเพื่อนในวันนี้
- Jim wants to shave his head. จิมอยากโกนศีรษะ
- Just give me 2 minutes of your time. ขอเวลาให้ฉันแค่ 2 นาทีก็พอ
- Just one carton. แค่หนึ่งซอง
- Just relax, be yourself. แค่ผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเอง
- Just simply make it natural and easy to understand. แค่ทำให้มันง่ายๆ เป็นธรรมชาติ และเข้าใจง่าย
- Just this once. แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
- Just under the departure sign thanks. ตรงใต้ป้ายออกเดินทางนั่นค่ะ ขอบคุณมาก
- Just wait and see. แค่คอยดูเท่านั้น
- Keep your shirt on! We have plenty of time. คอยเดี๋ยวก่อน พวกเรามีเวลาเหลือเฟือ
- Last year, I did accomplish a lot. ปีที่แล้วฉันประสบความสำเร็จมาก
- Let bygones be bygones! ที่ผ่านไปแล้ว ก็ให้มันแล้วไปเถอะ
- Let me give you a hug. ขอฉันกอดคุณหน่อยนะ
- Let me give you an example,… ขอฉันยกตัวอย่างให้คุณฟังหน่อย
- Let me illustrate… ขอฉันอธิบาย
- Let me show you how this works. ขอฉันสาธิตให้คุณดูว่ามันทำงานอย่างไร
- Let me tell you some details about… ขอฉันบอกรายละเอียดบางอย่างกับคุณเกี่ยวกับ
- Let not waste your time! อย่าเสียเวลาเปล่าเลย
- Let us know what you think of this report. บอกให้เรารู้ด้วยว่าคุณคิดอย่างไรกับรายงานนี้
- Let's divide the cake into three. มาแบ่งเค็กนี้ออกเป็นสามส่วนเถอะ
- Let's get started. มาเริ่มต้นกันเถอะ
- Let's go out and have some fun. ออกไปเที่ยวหาความสำราญกันเถอะ
- Let's sit here on the beach. มานั่งที่ตรงชายหาดนี่เถอะ
- Life is full of ups and downs. ชีวิตเต็มไปด้วยขาขึ้นและขาลง
- Listen to me carefully! ฟังฉันอย่างตั้งใจด้วย
- Listen, I need you advice. ฟังนะฉันต้องการคำแนะนำของคุณ
- Living in Bangkok affects my health. การอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯมีผลต่อสุขภาพของฉัน
- Long time no see. ไม่ได้เจอกันนานเลย
- Look, why don't you go with him? ฟังนะ ทำไมไม่ไปกับเขา?
- Many a man died in the battle. คนจำนวนมากตายในสงคราม
- May I ask you a question? ขอฉันถามคำถามคุณหน่อยได้ไหม?
- Maybe it would be best to get some advice from… บางทีอาจเป็นการดีที่สุดที่จะขอคำแนะนำจาก...
- Maybe we could come here again for lunch later. บางทีคราวหน้าเราอาจจะมาทานอาหารเที่ยงที่นี่กันอีก
- My boy was kidnapped a few days ago. ลูกชายของฉันถูกลักพาตัวไปสองสามวันมาแล้ว
- My boyfriend has been seeing somebody else. แฟนของฉันคบหากับใครคนอื่นอยู่
- My cat is easily spooked before a thunderstorm. แมวฉันมักตื่นตกใจง่ายๆ ก่อนพายุฝนจะมา
- My computer was on the blink. คอมพิวเตอร์ของฉันเสีย/ใช้การไม่ได้
- My stomach is still upset, and I feel dizzy. ท้องไส้ฉันยังคงปั่นป่วนอยู่ และฉันก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ
- My wife is a little bit fresher today. วันนี้ภรรยาของผมสดชื่นมากกว่าเดิมเล็กน้อย
- Never mind about that. เรื่องนั้นช่างมันเถอะ
- No doubt he liked to do so. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาชอบทำอย่างนั้น
- No matter what happened, he would not say a word. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาก็จะไม่พูดสักคำ
- No one will believe that. ไม่มีใครเชื่อคุณหรอก
- No one’s ever done that before. ไม่มีใครเคยทำอย่างนั้นมาก่อน
- No, I don't know where it is, sorry. เสียใจด้วย ฉันไม่ทราบว่ามันอยู่ที่ไหน?
- No, no reason really. ไม่ ไม่มีเหตุผลอะไรจริงๆ
- No, nothing seems to be missing. ไม่ ดูเหมือนไม่มีอะไรหายไป
- No, thanks. I'm not a bit thirsty. ไม่หรอก ขอบคุณ ฉันไม่รู้สึกกระหายเลยสักนิด
- No, they're still awake. เปล่า พวกเขายังคงตื่นอยู่
- No, we're just good friends. ไม่ เราเป็นแค่เพียงเพื่อนที่ดีต่อกัน
- No, you invited me out, you choose. ไม่ คุณชวนฉันมา คุณเลือกเถอะ
- Nobody knows where it is? ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน?
- None of us is afraid of difficulties. พวกเราไม่มีใครกลัวความยากลำบาก
- Not a man volunteered to do the job. ไม่มีใครสักคนรับอาสาทำงานนี้
- Not really. ไม่เลยจริงๆ
- Not very good. I have a headache. ก็ไม่ดีมากนัก ฉันปวดหัว
- Now he wants to grow a beard. ตอนนี้เขาอยากไว้หนวด
- Now I really need your help. ตอนนี้ฉันต้องการความช่วยเหลือของคุณจริงๆ
- Now they don't even talk to each other. ตอนนี้พวกเขาไม่แม้แต่จะพูดคุยกัน
- Now will you please get to the point? ตอนนี้คุณช่วยเข้าสู่ประเด็นหน่อยได้ไหม?
- Now, I am focused on pursuing my new goals. ตอนนี้ฉันมุ่งความสนใจไปยังการไล่ตามเป้าหมายใหม่ของฉัน
- Now, I'm studying at Bangkok University. ตอนนี้ ฉันกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ
- Now, leave me alone. ตอนนี้ขอฉันอยู่ตามลำพังเถอะ
- Now, the important thing is to talk to them. ตอนนี้ สิ่งสำคัญคือต้องพูดกับพวกเขา
- Occasionally. Once in a while. Not very often. บางโอกาส นานๆ ครั้ง ไม่บ่อยมากนัก
- Of course. No problem. แน่นอน ไม่มีปัญหา
- Oh I'd love to but I have to do some work. โอ ฉันอยากจะไป แต่ฉันมีงานบางอย่างที่ต้องทำ
- Oh it's so quiet tonight! โอ คืนนี้ช่างเงียบเหงาเหลือเกิน
- Oh no! I can't find my purse! โอไม่ ฉันหากระเป๋าตังส์ไม่เจอ
- Oh relax! The books can wait. โอ พักผ่อนบ้าง หนังสือนะรอได้อยู่
- Oh sorry, am I interrupting something here? โอ ขอโทษนะ ฉันมาขัดจังหวะอะไรที่นี่หรือเปล่า?
- Oh thanks, we owe you. Bye! โอ ขอบใจนะ พวกเราเป็นหนี้คุณ ไปล่ะ
- Oh that's so kind of you. โอ คุณช่างใจดีเหลือเกิน
- Oh, I rather like that one. โอ ฉันชอบอันนั้นมากกว่า
- Oh, it seems like only yesterday. โอ มันดูเหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี่เอง
- Oh, it was my pleasure. โอ ฉันต่างหากที่ต้องยินดี
- Oh, it's a gorgeous dress. โอ มันเป็นชุดที่สวยงามมาก
- Oh, you're dropped something, madam. โอ คุณครับ คุณทำบางสิ่งตกไว้
- Ok everyone, I’ve got an announcement. เอาล่ะทุกคน ฉันมีอะไรจะประกาศ
- Okay, I’ll see you outside. ตกลง เจอกันข้างนอกนะ
- On behalf of my company, I would like to welcome you here. ในนามของบริษัท ผมขอต้อนรับพวกคุณที่นี่
- One third of this area is covered with forest. หนึ่งในสามของพื้นที่นี้ถูกปกคลุมด้วยป่า
- Open your books and turn to page 20. เปิดหนังสือของคุณไปที่หน้า 20
- Ouch! I cut my finger. โอ๊ย ฉันทำมีดบาดนิ้ว (มีดบาดนิ้วฉัน)
- Our car ran out of petrol. รถเราน้ำมันหมดแน่ะ
- Paper is made from wood. กระดาษทำมาจากไม้
- Patience is a mark of confidence. ความอดทนเป็นเครื่องหมายของความมั่นใจ
- Please be more careful. ได้โปรดระวังหน่อย
- Please come earlier. กรุณามาแต่เนิ่นๆ
- Please come with us if you would like to do so. โปรดมากับพวกเราถ้าคุณอยากมาด้วย
- Please listen to what I'm speaking. ได้โปรดฟังสิ่งที่ฉันกำลังพูด
- Please say that again. ได้โปรดพูดอีกครั้ง
- Please, make yourself comfortable. ได้โปรดทำตัวตามสบาย
- Probably just food poisoning. อาจเป็นเพียงแค่อาหารเป็นพิษ
- Seven of us were stuck in the lift for over an hour. พวกเราเจ็ดคนติดอยู่ในลิฟท์กว่า 1 ชั่วโมง
- She absolutely hated it. เธอเกลียดมันอย่างที่สุด
- She came to see you a moment ago. เธอมาพบคุณเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
- She caught him cheating on her. เธอจับได้ว่าเขานอกใจเธอ
- She delivered her first child. เธอให้กำเนิดลูกคนแรก
- She didn't fancy him so she said 'no'. เธอไม่ได้ชอบเขาดังนั้นเธอจึงบอกปฏิเสธ
- She doesn't want to go out with me. เธอไม่ต้องการออกไปเที่ยวกับฉัน
- She faced up to the problem. เธอเผชิญหน้ากับปัญหา
- She gave them a bit of food. เธอให้อาหารเล็กน้อยแก่พวกเขา
- She guided the tourists around the castle. เธอนำนักท่องเที่ยวชมรอบๆ ปราสาท
- She had a cold yesterday. เธอเป็นหวัดเมื่อวานนี้
- She had her first child last week. เธอได้ลูกคนแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- She has fallen in love with someone else. เธอได้พบรักกับคนอื่น
- She intends to make teaching her profession. เธอตั้งใจที่จะทำอาชีพสอนหนังสือ
- She is a woman not born yesterday. เธอไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนแล้ว
- She is anything but satisfied with her face. เธอไม่พอใจกับใบหน้าของตนเอง
- She is going out with Mark. เธอกำลังคบหากับมาร์ก
- She is not too happy with her marks. เธอไม่ยินดีมากนักกับคะแนนที่ได้
- She is such a kind person. เธอเป็นคนใจดี
- She kept that one a secret. เธอเก็บเรื่องนั้นเป็นความลับ
- She looks like me, except her hair style. เธอดูเหมือนฉัน ยกเว้นแต่ทรงผมของเธอ
- She makes it clear that she doesn't like swimming. เธอบอกอย่างชัดเจนว่าเธอไม่ชอบว่ายน้ำ
- She messed up the plans. เธอทำแผนรวนหมด
- She never keeps her promises. เธอไม่เคยรักษาสัญญาเลย
- She never resigns her son to another person's care. เธอไม่ยอมให้ใครดูแลลูกชายเธอเลย
- She reminds me of my mother. เธอทำให้ฉันนึกถึงคุณแม่ของฉัน
- She runs everyday in order to lose weight. เธอวิ่งทุกวันเพื่อลดน้ำหนัก
- She specializes in looking after children. เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลเด็ก
- She spent a lot of money on books. เธอเสียเงินกับหนังสือต่างๆ เป็นจำนวนมาก
- She told me a short time ago. เธอเพิ่งบอกฉันเมื่อครู่นี้
- She told me ages and ages ago. เธอบอกฉันมาเป็นชาติแล้ว
- She took her husband back. เธอคืนดีกับสามี
- She wants him to go to co-educational school. เธอต้องการให้เขาไปโรงเรียนสหศึกษา
- She was absolutely terrified when she heard the noise. เธอหวาดกลัวอย่างที่สุดเมื่อได้ยินเสียงนั่น
- She was doubtful about whether to go or not. เธอสงสัยว่าไปหรือไม่ไปดี
- She was injured badly in the accident. เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุนั้น
- She went out with him for 18 months. เธอคบกับเขามา 10 เดือนแล้ว
- She won first prize in the lottery. เธอถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง
- She won't allow a party in this house. เธอไม่ยอมให้มีปาร์ตี้ในบ้านหลังนี้
- She won't allow us to have a party. เธอจะไม่ปล่อยให้เราจัดปาร์ตี้
- She's just gone for a break. What's the matter? เธอเพิ่งจะออกไปพัก มีเรื่องอะไรหรือ?
- She's not my type really. เธอไม่ใช่แบบที่ฉันชอบจริงๆ นะ
- She's playing some kind of game with her children. เธอกำลังเล่นเกมบางอย่างกับลูกๆ
- She's tall, thin and beautiful. เธอสูง ผอม และสวย
- Show your tickets, please. ได้โปรดแสดงตั๋วด้วย
- Smoking is not allowed in this building. ตึกนี้ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่
- So how was the cinema? หนังเรื่องนี้เป็นไงบ้าง?
- So I'm going to ask you. ดังนั้นฉันกำลังจะถามคุณ
- So many of their alumni get into the top University. ศิษย์เก่าจำนวนมากของพวกเขาสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้
- So no more secrets, OK? ดังนั้นอย่ามีความลับอีก ตกลงไหม?
- So, this is a lot different than your home? งั้นที่นี่ก็แตกต่างอย่างมากกับที่บ้านของคุณสิ?
- Some topics of conversation can lead to arguments. บางหัวข้อสนทนาสามารถนำไปสู่การโต้แย้งได้
- Somebody just gave you a gift for your birthday. ใครบางคนเพิ่งให้ของขวัญคุณเนื่องในวันเกิด
- Somebody told my boss I have a part-time job. ใครบางคนบอกหัวหน้าฉันว่าฉันทำงานพาร์ทไทม์
- Sorry about the interruption. ขอโทษด้วยที่มาขัดจังหวะ
- Sorry to disturb, I'm just returning this book. ขอโทษที่รบกวน ฉันก็แค่จะเอาหนังสือมาคืน
- Sorry to keep you waiting. ขอโทษที่ทำให้คุณต้องคอย
- Take a seat, please, make yourself at home. ได้โปรดนั่งลง ทำตัวตามสบาย
- Take this medicine and you will feel better in due course. ทานยานี่แล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้นทันกาล
- Take your time. (ใช้เวลา)ตามสบายเถอะ / ไม่ต้องรีบร้อน
- Tell me what you did yesterday. บอกฉันหน่อยว่าคุณทำอะไรเมื่อวานนี้
- Terrible weather, isn't it? อากาศแย่มากเลยจริงไหม?
- Thank you for inviting me to tea. ขอบคุณที่เชิญฉันมาทานน้ำชา
- Thank you for your advice. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณ
- Thank you so much. I really like it. ขอบคุณมากเหลือเกิน ฉันชอบมันจริงๆ
- Thanks for dragging me out, guys. ขอบคุณที่ลากฉันออกมาเพื่อนๆ
- Thanks for inviting me. ขอบคุณที่เชิญฉัน
- That's too bad. แย่จังเลย
- That's very cool. นั่นเยี่ยมมากเลย
- That's what we need to talk to you about. นั่นแหล่ะคือสิ่งที่พวกเราต้องพูดกับคุณ
- That's won't be necessary. Thank you. นั่นไม่จำเป็นหรอก ขอบคุณ
- The boat is really to leave. All aboard! เรือใกล้จะออกแล้ว ทุกคนขึ้นเรือได้แล้ว
- The book is protected by copyright. หนังสือเล่มนี้ได้รับการคุ้มครองโดยลิขสิทธิ์
- The class will finish at 7:30 tonight. ชั้นเรียนจะเลิกในตอนทุ่มครึ่งคืนนี้
- The court set bail at 200,000 Baht. ศาลตั้งเงินค่าประกันสองแสนบาท
- The doctor asked me to watch what I eat. หมอขอให้ฉันระมัดระวังสิ่งที่รับประทาน
- The doctor will be with you in a moment. คุณหมอจะมาพบคุณในอีกสักครู่
- The dress doesn't fit her. She is too thin. ชุดนี้ไม่พอเหมาะกับเธอ เธอผอมเกินไป
- The examination put a lot of stress on him. การสอบทำให้เขากดดันมาก
- The ferocious dog attacked the child. สุนัขดุนั่นจู่โจมเข้าใส่เด็ก
- The hotel can accommodate over 1000 guests. โรงแรมสามารถจัดหาห้องพักให้แขกได้มากกว่า 1000 คน
- The hotel has a rule against keeping animals in bedrooms. โรงแรมนี้มีกฎไม่ให้เลี้ยงสัตว์ในห้องนอน
- The manager will return shortly. ผู้จัดการจะกลับมาเร็วๆ นี้
- The market is opposite the stadium. ตลาดอยู่ตรงข้ามกับสนามกีฬา
- The other one seemed nicer. อีกชุดดูดีกว่านะ
- The rice cooker is under the sink. หม้อหุงข้าวอยู่ใต้อ่าง
- The road ahead was full of sheep. ถนนข้างหน้าเต็มไปด้วยแกะ
- The room is not crowded. ห้องนี้ไม่แออัด
- The rumor had no basis. ข่าวลือไม่มีมูล
- The rumor is full of slander. ข่าวลือนั่นเต็มไปด้วยเรื่องใส่ร้ายป้ายสี
- The secret was spread among the crowd. ความลับนั้นได้แพร่กระจายไปในฝูงชน
- The soldiers fought against the enemy. ทหารต่อสู้กับศัตรู
- The teacher let us leave early. ครูปล่อยพวกเราเร็วขึ้น
- The two brothers are very much alike. สองหนุ่มพี่น้องเหมือนกันมากๆ
- There are a few things around the house I'd like you to do. มีงานสองสามอย่างโดยรอบบ้านที่ฉันอยากให้คุณทำ
- There are a lot of reasons why I'd stop seeing someone. มีเหตุผลตั้งมากมายที่ทำไมฉันถึงได้เลิกคบใครบางคน
- There are many ways of learning a language. มีหลายๆ วิธีในการเรียนภาษาหนึ่งๆ
- There are not enough cars. มีรถไม่พอเพียง
- There are two oranges in the fridge. มีส้มอยู่สองลูกในตู้เย็น
- There is a mark of ink on his shirt. มีรอยหมึกบนเสื้อเชิร์ตของเขา
- There is a problem with electricity. มีปัญหาเกี่ยวกับไฟฟ้า
- There is no doubt about that. ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนั้น
- There is no parking lot in the hospital. ไม่มีที่จอดรถในโรงพยาบาล
- There is not enough light to read. ไฟไม่สว่างพอที่จะอ่านหนังสือ
- There is nothing more going on between John and me. ระหว่างจอห์นและฉันไม่มีอะไรก้าวหน้ามากไปกว่านี้
- There is plenty of time for that later. มีเวลามากมายสำหรับเรื่องนั้นทีหลัง
- There is some difference between twins. มีความแตกต่างบางอย่างระหว่างฝาแฝด
- There isn't any water in the bottle. ไม่มีน้ำในขวดนั้นเลย
- There was quite a large crowd in the street. มีฝูงชนขนาดใหญ่ทีเดียวอยู่บนถนน
- There will be time enough for that later. จะมีเวลามากพอสำหรับเรื่องนั้นในตอนหลัง
- There's loads of stuff all over it. มีข้าวของจำนวนมากเต็มไปหมด
- They are arguing over who should pay the bill. พวกเขากำลังโต้เถียงกันเรื่องใครจะเป็นคนจ่ายค่าบิลล์
- They are deeply concerned about the condition of… พวกเขาเป็นห่วงอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสภาพ/ความเจ็บป่วยของ...
- They built a bridge across the river. พวกเขาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ
- They can't agree about… พวกเขาไม่สามารถเห็นด้วยเกี่ยวกับ
- They employed him as a consultant. พวกเขาจ้างเขาเป็นที่ปรึกษา
- They have plenty of money. พวกเขามีเงินมากมาย
- They have to work hard to support their family. พวกเขาต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว
- They insisted on staying rather than going. พวกเขายืนกรานที่จะอยู่มากกว่าไป
- They just moved down two years ago from the north. พวกเขาเพิ่งจะย้ายลงมาจากทางเหนือ 2 ปีมาแล้ว
- They sailed against the wind. พวกเขาแล่นเรือต้านลม
- They set up the equipment. พวกเขาจัดเตรียมอุปกรณ์
- They tell a very different story. พวกเขาเล่าเรื่องราวต่างกันมาก
- They took turns in watching their sick son. พวกเขาผลัดกันเฝ้าลูกชายที่ป่วย
- They were best friends for years. พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาหลายปี
- They will wrap it up for you. พวกเขาจะห่อมันให้กับคุณ
- Things are getting better. สิ่งต่างๆ กำลังดีขึ้น
- Thinking negatively can become a habit. การคิดในเชิงลบอาจกลายเป็นนิสัยได้
- Thinking ten times before you decide anything. คิดให้หลายตลบก่อนที่เธอจะตัดสินใจสิ่งใด
- This café charges very high prices for its coffee. ร้านกาแฟแห่งนี้คิดค่ากาแฟแพงมาก
- This door opens outwards. ประตูนี้เปิดออกไปสู่ด้านนอก
- This information should be made available to the public. ข้อมูลนี้ควรจะนำไปเผยแพร่สู่สาธารณะ
- This is the fourth time that this happened. สิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สี่แล้วนะ
- This is the worst day of your life so far. จนบัดนี้นี่ก็ยังเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของคุณ
- This isn't the first time this has happened. นี่มันไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
- This letter entitles him to enter the office. จดหมายนี้ให้สิทธิเขาเข้ามาในสำนักงานได้
- This one cannot compare with that one. สิ่งนี้ไม่สามารถเปรียบเทียบกับสิ่งนั้นได้
- This pen doesn't write well. ปากกาแท่งนี้เขียนไม่ดีเลย
- This pen has run out. Can I borrow yours? ปากกาแท่งนี้หมึกหมดแล้ว ขอยืมคุณหน่อยได้ไหม?
- This table was made by my father. โต๊ะตัวนี้ทำขึ้นโดยพ่อของฉัน
- This table was made of wood. โต๊ะตัวนี้ทำด้วยไม้
- This year I'm going to work really hard. ปีนี้ฉันจะทำงานหนักจริงๆ
- Three or four times a year. สามหรือสี่ครั้งต่อปี
- To be silent about what have been happened. ที่จะนิ่งเงียบเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
- Try to be more careful in future, okay? พยายามระมัดระวังให้มากขึ้นในคราวหน้า ตกลงไหม?
- Unlike him, she never gave up hope. เธอไม่เหมือนเขาตรงที่ เธอไม่เคยสิ้นความหวัง
- Wait a moment, I'll be with you in an instant. คอยเดี๋ยวก่อน ฉันจะมาพบคุณในอีกสักครู่นี่แหล่ะ
- Wait while I find the phone. คอยก่อนนะ ขณะที่ฉันหาโทรศัพท์อยู่
- Wake me up at five thirty! ปลุกฉันตื่นตอน 5:30 ด้วย
- Want me to lend you some cash? อยากยืมเงินฉันบ้างไหม?
- We are looking for something fresh and different. พวกเรากำลังมองหาบางสิ่งที่ใหม่และแตกต่าง
- We are on our way to Bangkok. พวกเรากำลังอยู่ในระหว่างทางมากรุงเทพฯ
- We are planning a tour to Italy this summer. พวกเรากำลังวางแผนไปเที่ยวอิตาลีกันหน้าร้อนนี้
- We are unable to repair it. พวกเราไม่สามารถซ่อมมันได้
- We are very grateful for what you did. พวกเรารู้สึกซาบซึ้งใจต่อสิ่งที่คุณทำ
- We cannot tolerate the situation. พวกเราไม่สามารถที่จะอดทนต่อสถานการณ์นั่นได้
- We can't go out because of the rain. พวกเราออกไปไม่ได้เพราะฝนตก
- We could have a party. พวกเราควรจะจัดปาร์ตี้นะ
- We gratefully acknowledge your help พวกเราขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณเป็นอย่างยิ่ง
- We had a bit of a shock when we heard the news. พวกเราช็อคนิดหน่อยเมื่อทราบข่าวนั้น
- We had a long discussion this morning about… พวกเราอภิปรายกันนานในเช้านี้เกี่ยวกับ
- We have done well. พวกเราทำได้ดี
- We have no time for dinner with you. พวกเราไม่มีเวลาสำหรับทานข้าวเย็นกับคุณ
- We have some other classes together. เรามีเรียนบางวิชาด้วยกัน
- We have to talk about everything! เราต้องคุยกันเกี่ยวกับทุกเรื่อง
- We have to walk two kilometers to a garage. พวกเราต้องเดินไปที่อู่รถ 2 กิโลเมตร
- We moved to Bangkok when I was 12 years old. พวกเราย้ายไปกรุงเทพฯเมื่อฉันอายุได้ 12 ขวบ
- We need more light. พวกเราต้องการแสงสว่างมากกว่านี้
- We need to tidy up. There's rubbish everywhere. เราต้องทำมันให้เป็นระเบียบ มีขยะอยู่ทุกที่เลย
- We never see you these days. พวกเราไม่ได้เจอคุณเลยหมู่นี้
- We often call him by his nickname. พวกเรามักจะเรียกชื่อเล่นของเขาประจำ
- We voted by show of hands. พวกเราออกเสียงโดยการยกมือ
- We would love you to come and stay. พวกเราอยากให้คุณมาพักด้วย
- We'd better do that straight away. พวกเราควรจะทำสิ่งนั้นโดยทันที
- We'd like to hear what you have to say. เราอยากได้ยินสิ่งที่คุณต้องพูด
- Weird! You told the boss? ประหลาด คุณบอกหัวหน้าหรือยัง?
- We'll be in touch very soon. พวกเราจะได้ติดต่อกันเร็วๆ นี้แหล่ะ
- We'll have our first anniversary party. พวกเราจะจัดปาร์ตีฉลองครบรอบหนึ่งปี
- Well I did at times, especially in the early days. ก็คิดถึงบ้างบางครั้ง โดยเฉพาะในวันแรกๆ
- Well it's true that it doesn't suit everyone. ก็จริงที่มันไม่ได้เหมาะกับทุกคน
- Well one of the main reasons is that… หนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คือว่า...
- Well thank you for coming in today. เอาล่ะ ขอบคุณมากที่มาในวันนี้
- Well this was much better than I expected. นี่มันก็ดีกว่าที่ฉันคาดไว้
- Well, he is tall and well built. ก็สูงและหุ่นดี
- Well, I'd love to go on a date. ก็ดี ฉันก็อยากจะออกเดท
- Well, I'm afraid it isn't up to me. เอ่อ ฉันเกรงว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ฉันนะ
- Well, it isn't anything serious. เอาล่ะ ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก
- Well, it’s been nice talking to you. I'll see you later. ดีจังที่ได้พูดคุยกับคุณ แล้วเจอกันคราวหลังนะ
- Well, let's not worry about it now. เอาล่ะ พวกเราอย่ากังวลเกี่ยวกับมันตอนนี้เลย
- Well, there are good arguments on both sides. เอ่อ! นั่นก็เป็นข้อถกเถียงที่ดีทั้งสองฝ่าย
- We're delighted to have you. พวกเราดีใจที่คุณมา
- We're hungry so we need some food. พวกเราหิวกัน ดังนั้นพวกเราต้องการอาหารบางอย่าง
- We're not all as rich as you, you know. รู้ไหม พวกเราทั้งหมดนี้ไม่ได้รวยเท่าคุณหรอกนะ
- We're not allowed animals in the flat. แฟลตนี้ไม่อนุญาตให้เราเลี้ยงสัตว์
- Were you born and raised in Chiangmai? คุณเกิดและเติบโตที่เชียงใหม่หรือ?
- We've been seeing each other for quite a while. พวกเราคบกันมาก็ช่วงระยะเวลาหนึ่ง
- We've run out of sugar. น้ำตาลเราหมดแล้ว
- What a lot of troubles! ช่างยุ่งยากมากมายอะไรอย่างนี้
- What a noise! เสียงดังอะไรอย่างนั้น
- What a surprise! น่าประหลาดอะไรอย่างนี้
- What an interesting story! เป็นเรื่องที่น่าสนใจอะไรอย่างนี้
- What an ugly picture! รูปอะไรน่าเกลียดอย่างนี้
- What are we celebrating? พวกเราจะฉลองอะไรกันดีล่ะ?
- What are you doing here? คุณกำลังทำอะไรอยู่ที่นี่?
- What are you doing on the computer? คุณกำลังทำอะไรกับคอมพิวเตอร์นั่น?
- What are you reading, or is it private? คุณกำลังอ่านอะไรอยู่ เป็นเรื่องส่วนตัวหรือ?
- What are your strengths and weaknesses? จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณคืออะไร?
- What can I do for you? ฉันจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง?
- What do you all want? It's my round. ทุกคนต้องการอะไรบ้าง ถึงตาฉันบ้างแล้ว
- What do you like to do in your free time? คุณชอบทำอะไรในยามว่างหรือ?
- What do you think, how do I look? คุณคิดว่าฉันเป็นไงบ้าง?
- What does Mike look like? ไมค์หน้าตาเป็นอย่างไรหรือ?
- What does she look like? รูปร่างหน้าตาเธอเป็นอย่างไร?
- What does that mean? นั่นหมายความว่าไง?
- What else did he say? เขาพูดอะไรอีกหรือ?
- What evidence do you have? คุณมีหลักฐานอะไร?
- What grade are you in? คุณเรียนอยู่ชั้นไหนหรือ?
- What have you been doing all day? คุณทำอะไรตลอดทั้งวันหรือ?
- What have you done to fascinate him? คุณทำอะไรให้เขาหลงใหลหรือ?
- What he told was all a fish story. เรื่องที่เขาบอกล้วนแต่เป็นเรื่องไร้สาระ
- What is the weather like in Chiangmai? อากาศที่เชียงใหม่เป็นอย่างไรบ้าง?
- What is your friend like? เพื่อนของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?
- What kind of film should they see? พวกเขาควรดูหนังประเภทไหนกัน?
- What kind of films do you like? คุณชอบหนังประเภทไหน?
- What seems to be the problem? มีปัญหาอะไรหรือ?
- What we read influences our thinking. สิ่งที่เราอ่านให้อิทธิพลกับความคิดของเรา
- What work does your father do? คุณพ่อคุณทำงานอะไรหรือ?
- What would you prefer? คุณชอบอันไหนมากกว่ากัน?
- What you need is just rest. สิ่งที่คุณต้องการก็แค่พักผ่อน
- What, are you deaf? I call you twice. อะไรนะ คุณหัวหนวกหรือไง? ฉันเรียกคุณตั้งสองครั้ง
- Whatever you say! อะไรก็ได้ (ที่ว่ามา)
- What's going on here? What a mess! เกิดอะไรขึ้นที่นี่? ช่างเละเทะอะไรอย่างนี้
- What's it like? มันเป็นอย่างไรบ้าง?
- What's the name of the film? (What's it called?) หนังเรื่องอะไรหรือ?
- What's the point of going to college? วัตถุประสงค์ของการเข้าวิทยาลัยคืออะไร?
- What's the story? (What’s it about?) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรหรือ?
- What's your advice? คุณมีคำแนะนำอะไรบ้าง?
- What's your opinion of the film? (What's it like?) คุณคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
- What's your plan for the summer vacation? คุณมีแผนอะไรสำหรับการไปพักร้อนนี้?
- When did you last see them? คุณพบเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?
- Where did you find it? คุณหามันมาได้จากที่ไหนหรือ?
- Where is your next class? วิชาต่อไปของเธอที่ไหนหรือ?
- Where would you like me to take it? คุณอยากให้ฉันถ่ายภาพให้ที่ไหนหรือ?
- Where's it playing? มันเล่นที่ไหนหรือ?
- Which offer a very high-quality education. ที่ให้การศึกษาที่มีคุณภาพสูงมาก
- Which ones are the right ones for me? ว่าอันไหนที่เหมาะสำหรับฉัน
- Who are the leading actors? (Who's in it?) ใครเป็นนักแสดงนำ?
- Who do you think it from? คุณคิดว่ามันมาจากใครหรือ?
- Who is the director? (Who's it by?) ใครเป็นผู้กำกับ?
- Who's in it? ใครอยู่ในนั้นหรือ?
- Why are you so serious about it? ทำไมคุณเครียดกับมันมากนัก?
- Why can't you were obey the rules? ทำไมคุณไม่เชื่อฟังกฏบ้าง?
- Why didn't you call me last night? ทำไมเธอไม่โทรหาฉันเมื่อคืนนี้?
- Why do people spend so much for them? ทำไมผู้คนต้องจ่ายเงินไปมากมายเพื่อพวกมันด้วย
- Why do you look so sad? ทำไมคุณถึงดูเศร้าจัง?
- Why do you think that? ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้น?
- Why don't we do something to cheer ourselves up? ทำไมเราไม่ทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ตัวเราเองรื่นเริงขึ้น?
- Why don't you admit you were the one who stole the book? ทำไมเธอไม่ยอมรับว่าเธอเป็นคนขโมยหนังสือเล่มนั้น?
- Why don't you ask first? ทำไมคุณไม่ถามก่อนล่ะ?
- Why don't you attend an aerobic class? ทำไมคุณไม่เข้าชั้นเรียนแอโรบิก?
- Why don't you choose? ทำไมคุณไม่เลือกล่ะ?
- Why don't you just tell me what's on your mind? ทำไมถึงไม่บอกฉันมาว่าคุณคิดอะไรอยู่?
- Why don't you try this cake? ทำไมไม่ลองทานเค๊กนี้ดู?
- Why don't you try to behave? ทำไมคุณถึงไม่พยายามทำตัวดีๆ
- Why have you been keeping it a secret for so long? ทำไมคุณถึงได้เก็บมันเป็นความลับตั้งนานอย่างนั้น?
- Why would she keep that a secret? ทำไมเธอถึงเก็บเรื่องนั้นเป็นความลับ
- Will anyone like to come with me? มีใครอยากจะไปกับฉันบ้างไหม?
- Will you be free tomorrow evening? คุณจะว่างตอนเย็นวันพรุ่งนี้ไหม?
- Will you come and join us for dinner on Sunday? คุณจะมาร่วมรับประทานอาหารค่ำกับเราในวันอาทิตย์ไหม?
- Will you help me finish the housework? คุณจะช่วยฉันทำงานบ้านนี้ให้เสร็จได้ไหม?
- Will you pick me up at my place? คุณจะช่วยมารับฉันที่บ้านได้ไหม?
- Will you practice with me, please? คุณจะฝึกซ้อมกับฉันหน่อยได้ไหม ได้โปรดเถอะ?
- Will you sew a button on this shirt for me please? คุณจะช่วยกรุณาเย็บกระดุมบนเสื้อเชิร์ตนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม?
- Will you shut the door please? คุณช่วยกรุณาปิดประตูหน่อยได้ไหมครับ?
- Won't anyone help me? จะไม่มีใครช่วยเหลือฉันเลยหรือไง?
- Won't you take me back? คุณจะไม่คืนดีกับฉันหรือ?
- Words can't express what I felt. คำพูดต่างๆ ไม่สามารถสื่อถึงความรู้สึกของฉันได้
- Would Friday be too soon? ศุกร์นี้เร็วเกินไปไหม?
- Would you be able to join me for dinner next Saturday? คุณจะมาทานอาหารค่ำกับฉันเสาร์หน้าได้ไหม?
- Would you like a refund? คุณอยากจะได้เงินคืนไหม?
- Would you like dessert? คุณชอบของหวานไหม?
- Would you like some help. คุณอยากให้ช่วยบ้างไหม?
- Would you like something to eat? คุณอยากทานอะไรบางอย่างไหม?
- Would you like to do it again? คุณอยากทำมันอีกครั้งไหม?
- Would you like to go out one evening? คุณอยากออกไปเที่ยวตอนเย็นกันสักครั้งไหม?
- Would you like to go out to dinner or to a movie? คุณอยากออกไปทานข้าวเย็นหรือดูหนังดีล่ะ?
- Would you like to go out with me? คุณอยากจะออกไปเที่ยวกับฉันไหม?
- Would you like to join me? คุณอยากร่วมวงกับฉันไหม?
- Would you like to leave a message? คุณอยากจะทิ้งข้อความไว้ไหม?
- Would you mind answering a few questions for us? คุณช่วยตอบคำถามเราสักสองสามข้อได้ไหม?
- Would you mind moving your car? คุณช่วยเคลื่อนรถไปหน่อยได้ไหมครับ?
- Would you please give me a few examples? คุณช่วยกรุณายกตัวอย่างสักสองสามอย่างได้ไหม?
- Would you wait here until the doctor is ready for you? คุณช่วยคอยอยู่ตรงนี้จนกว่าหมอจะว่างสำหรับคุณได้ไหม?
- Write me as soon as you get in. เขียนถึงฉันทันทีที่ไปถึงนะ
- Yes, I wish it would stop raining. ใช่ ฉันอยากให้ฝนหยุดตก
- Yes, we are good friends. ใช่ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
- You acted like a grown up. คุณทำตัวเป็นผู้ใหญ่
- You always have a choice. คุณมีทางเลือกเสมอ
- You and I need to cooperate. คุณและฉันต้องร่วมมือกัน
- You are entitled to your own opinion. คุณมีสิทธิแสดงความคิดเห็นของคุณ
- You are not allowed to smoke in this building. คุณไม่ได้รับอนุญาตให้สูบบุหรี่ในตึกนี้
- You are old enough to go out without my permission. คุณอายุมากพอแล้วที่จะออกไปข้างนอกโดยไม่ต้องขออนุญาตฉัน
- You are sweet and charming. คุณน่ารักและและมีเสน่ห์
- You are the best in the game. คุณเป็นคนเก่งที่สุดในเกมนี้
- You can buy something else to eat. คุณสามารถซื้ออย่างอื่นทานได้
- You can call me any time. คุณสามารถโทรหาฉันได้ทุกเมื่อ
- You can come home whenever you want. คุณกลับมาบ้านได้ทุกเมื่อที่คุณอยากมา
- You can either stay or leave. คุณสามารถอยู่หรือไปก็ได้ทั้งนั้น
- You can never turn the clock back. คุณไม่มีทางหมุนเวลากลับมาได้
- You can park anywhere. คุณสามารถจอดได้ทุกที่
- You can stay as long as you want! คุณสามารถอยู่ได้นานเท่าที่คุณต้องการ
- You can't miss it! คุณจะพลาดไม่ได้นะ
- You continue doing it, even if it is difficult. คุณยังคงทำมันต่อไป แม้ว่ามันจะยากลำบาก
- You don’t have to do this. คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้
- You failed this mid-term test quite badly. เธอสอบกลางภาคไม่ผ่านอย่างย่ำแย่เต็มทน
- You get all your work finished? คุณทำงานทั้งหมดเสร็จแล้วหรือ?
- You guys never listen to me. พวกนายไม่เคยฟังฉันเลย
- You have a cat in my flat? คุณเลี้ยงแมวไว้บนแฟลตของฉันหรือ?
- You have another woman. คุณมีผู้หญิงคนอื่น
- You have got a few days off work, haven't you? คุณได้หยุดงานสองสามวัน ใช่ไหม?
- You haven't been out for weeks. คุณไม่ได้ออกไปไหนมาหลายสัปดาห์แล้ว
- You haven't changed much. คุณเปลี่ยนไปไม่มากเท่าไหร่
- You just don't seem as close as you used to be. พวกคุณดูเหมือนไม่ค่อยสนิทกันอย่างที่เคยเป็น
- You just have to be yourself. คุณก็แค่เป็นตัวของคุณเอง / ทำตัวตามปกติ
- You know how much your degree means to me. ลูกรู้ไหมปริญญาของลูกมีความหมายต่อแม่แค่ไหน
- You know I can't allow it. เธอก็รู้ว่าฉันไม่สามารถอนุญาตได้
- You know what is best for you. เธอรู้ว่าอะไรที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
- You know you can count on me. คุณก็รู้ว่าคุณสามารถพึ่งพาฉันได้
- You look very pale. คุณดูซีดมากเลย
- You must be joking. คุณต้องล้อเล่นแน่
- You must do it now. คุณต้องทำมันตอนนี้เลย
- You must feel really proud. คุณต้องรู้สึกภูมิใจจริงๆ
- You must work according to the manual. คุณต้องทำงานตามข้อกำหนดในคู่มือ
- You need to do more studying. คุณต้องเรียนให้หนักมากขึ้น
- You need to relax properly. คุณต้องการการพักผ่อนอย่างพอเหมาะ
- You need to tighten your belt. คุณจำเป็นต้องรัดเข็มขัดตัวเองแล้วนะ
- You should be ashamed of your behavior. คุณควรจะรู้สึกกระดากอายต่อพฤติกรรมของตน
- You should be more careful. คุณควรจะระวังมากกว่านี้
- You should read this book! คุณควรจะอ่านหนังสือเล่มนี้
- You should try to spend less. คุณควรพยายามใช้จ่ายให้น้อยลง
- You used to do a much better job. คุณเคยทำงานที่ดีกว่านี้มาก
- You will have a chance of promotion. คุณจะมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่ง
- You wouldn't go out with a guy like me. คุณคงจะไม่ออกไปเที่ยวกับผู้ชายอย่างผมหรอก
- You'd better destroy this letter so that no one else would see it. คุณควรทำลายจดหมายนี้เพื่อที่จะได้ไม่มีใครเห็นมัน
- You'd better hope somebody is there to help you. คุณควรจะหวังว่ามีใครบางคนอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือคุณ
- You'd better let her alone. คุณควรปล่อยให้เธออยู่ตามลำพังดีกว่า
- You'd better not make him late. คุณไม่ควรทำให้เขาสายนะ
- You'd better take the rest of your cake home. เธอควรจะเอาเค๊กส่วนที่เหลือของเธอกลับไปด้วยนะ
- You'll have plenty of time to sleep tomorrow. พรุ่งนี้คุณจะมีเวลานอนเต็มที่เลยแหล่ะ
- Your answer is satisfying. I feel satisfied. คำตอบของคุณน่าพอใจ ฉันรู้สึกพอใจ
- Your article is not good enough. บทความของคุณไม่ดีพอ
- Your dress suits you very well. ชุดของคุณเหมาะกับคุณดีมาก
- Your English is improving little by little. ภาษาอังกฤษของคุณกำลังพัฒนาไปทีละน้อย
- Your parents won't like it if you do. พ่อแม่คุณต้องไม่ชอบแน่ถ้าคุณทำมัน
- Your time has expired. เวลาของคุณหมดแล้ว
- You're 3 years older than me. คุณอายุมากกว่าฉัน 3 ปี
- You're always too busy studying. คุณยุ่งกับการเรียนอย่างมากเสมอ
- You're going out with another man. คุณกำลังคบหากับผู้ชายคนอื่น
- You're not allowed to smoke in this office. สำนักงานนี้ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่
- You're not angry with me? คุณไม่โกรธฉันใช่ไหม?
- You're not going to quit, are you? คุณจะไม่ล้มเลิก ใช่ไหม?
- You're right, the blue dress looks better. คุณพูดถูกแล้ว ชุดสีฟ้าดูดีกว่า
- You're selfish and two-faced. เธอเห็นแก่ตัวและตีสองหน้า
- You're welcome to stay with us next time. ยินดีต้อนรับคุณมาพักกับพวกเราอีกคราวหน้า
- You've been very patient. คุณช่างอดทนมากเลย
- You've got to believe me! คูณต้องเชื่อฉันนะ
โดย poowiang