ประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ (3)


เชิญดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้แล้วค่ะ ประโยคภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล 1000 ประโยคง่ายๆ ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อยากเก่งภาษาอังกฤษก็ต้องฝึกฝนเป็นประจำสม่ำเสมอ สู้ๆ ขอให้เก่งอังกฤษกันทุกคนนะคะ

ดาวน์โหลด

สามารถดาวน์โหลดอีบุ๊คพร้อม MP3 ประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ 4,500 ประโยค  เพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้เลย  http://20sentencesaday.blogspot.com/
..............................
  1. A cry from above warned me of the danger. เสียงร้องจากข้างบนเตือนฉันถึงอันตราย
  2. A drop of water is vital if you are in the desert. น้ำหนึ่งหยดก็สำคัญมากถ้าคุณอยู่ในทะเลทราย
  3. A lot of parents attended the meeting. พ่อแม่จำนวนมากเข้าร่วมประชุม
  4. A lot of top people went to prep schools. คนระดับสูงจำนวนมากเคยเข้าโรงเรียนเตรียม
  5. A Mr John has called to see you. ผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อจอห์นโทรมาขอพบคุณ
  6. A Mrs Mary will come to see you tomorrow. คนที่ชื่อนางแมรีคนหนึ่งจะมาพบคุณพรุ่งนี้
  7. A teacher earns less than a lawyer. ครูได้เงินเดือนน้อยกว่าทนาย
  8. Actually, I was born in Lampang. จริงๆ แล้วฉันเกิดที่ลำปาง
  9. Admit it - you love me. ยอมรับมาเถอะว่า คุณรักฉัน
  10. After an accident, he had a pain in his chest. เขาเจ็บที่หน้าอกหลังจากอุบัติเหตุ
  11. And he doesn't like that? และเขาไม่ชอบมันหรือ?
  12. Any other symptoms? มีอาการอื่นๆ อีกไหม?
  13. Anything to drink? ดื่มอะไรสักหน่อยไหม?
  14. Are the children asleep? เด็กๆ หลับหรือยัง?
  15. Are you afraid of the dark? คุณกลัวความมืดไหม?
  16. Are you asking me out on a date? คุณกำลังขอฉันออกเดทหรือ?
  17. Are you aware of difficulty? คุณรู้ถึงความยากลำบากหรือเปล่า?
  18. Are you enjoying yourself? คุณรู้สึกสนุกไหม?
  19. Are you seeing anybody else? คุณกำลังคบหากับใครคนอื่นอยู่หรือเปล่า?
  20. As the head of this family, I labor for the future of my children. ในฐานะหัวหน้าครอบครัว ฉันตราตรำเพื่ออนาคตของลูกๆ
  21. At least not in the way you think. อย่างน้อยก็ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด
  22. Because he doesn't use reasons. เพราะว่าเขาไม่ใช่เหตุผล
  23. Because I was too tired and fell asleep. เพราะว่าฉันเหนื่อยเหลือเกินและก็ผล็อยหลับไป
  24. Because it will put me in big trouble. เพราะมันจะสร้างปัญหาใหญ่หลวงให้ฉัน
  25. Because my grade is bad. เพราะว่าเกรดของฉันแย่
  26. Because we haven't got a lot of time. เพราะว่าพวกเราไม่มีเวลามากนัก
  27. Before he asked her to marry. ก่อนที่เขาจะขอเธอแต่งงาน
  28. Believe it or not,… เชื่อหรือไม่
  29. Better do your research! Get it done! ทำงานวิจัยของคุณดีกว่า ทำมันให้แล้วเสร็จ
  30. Can I ask you something as our boss? ขอฉันถามอะไรคุณบางอย่างในฐานะที่คุณเป็นเจ้านายได้ไหม?
  31. Can I go with you guys? ขอฉันไปกับพวกนายด้วยได้ไหม?
  32. Can I help you find something? ให้ฉันช่วยคุณหาของบางอย่างไหม?
  33. Can I take this chair? ฉันเอาเก้าอี้นี่ไปได้ไหม? / ฉันนั่งเก้าอี้นี่ได้ไหม?
  34. Can I talk to you for a moment? ขอฉันพูดกับคุณสักครู่ได้ไหม?
  35. Can you advise me on what to do? คุณช่วยแนะนำฉันหน่อยได้ไหมว่าควรทำอะไร?
  36. Can you illustrate that? คุณช่วยอธิบายสิ่งนั้นหน่อยได้ไหม?
  37. Can you pass me that newspaper please? คุณช่วยส่งหนังสือพิมพ์ให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?
  38. Can you please take a photo of me? คุณช่วยกรุณาถ่ายภาพให้ฉันหน่อยได้ไหม?
  39. Can you recommend somewhere to stay? คุณช่วยแนะนำสถานที่พักบางแห่งหน่อยได้ไหม?
  40. Can you tell me how to get to the river? คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าจะไปที่แม่น้ำนี่ได้อย่างไร?
  41. Close the door after you please! เข้ามาแล้วกรุณาปิดประตูด้วย
  42. Come on. I've said sorry a million times. ไม่เอาน่า ฉันพูดขอโทษตั้งล้านครั้งแล้ว
  43. Come to see me whenever you like! มาหาฉันเมื่อใดก็ตามที่คุณอยากมา
  44. Could you come here please? คุณช่วยกรุณามานี่หน่อยได้ไหมคะ?
  45. Could you elaborate? คุณช่วยให้รายละเอียดเพิ่มเติมหน่อยได้ไหม?
  46. Could you explain it in more details? คุณช่วยอธิบายในรายละเอียดหน่อยมากกว่านี้หน่อยได้ไหม?
  47. Could you get me some vodka? ขอวอดก้าฉันสักหน่อยได้ไหม?
  48. Could you give me an example? คุณช่วยให้ตัวอย่างฉันหน่อยได้ไหม?
  49. Could you make me some tea? คุณช่วยชงชาให้ฉันสักหน่อยได้ไหมคะ?
  50. Could you pay me in advance? คุณช่วยจ่ายฉันล่วงหน้าได้ไหม?
  51. Could you provide some details? คุณช่วยให้รายละเอียดบางอย่างได้ไหม?
  52. Did they have a good time? พวกเขารู้สึกสนุกกันไหม?
  53. Did you do anything fun? คุณทำอะไรสนุกๆ บ้างหรือเปล่า?
  54. Did you find everything you needed? คุณได้ทุกสิ่งที่คุณต้องการหรือยัง?
  55. Did you find what you were looking for? คุณเจอสิ่งที่คุณมองหาอยู่แล้วหรือยัง?
  56. Did you get it back? คุณได้มันคืนมาหรือยัง?
  57. Did you hear what I just heard? คุณได้ยินอย่างที่ฉันเพิ่งได้ยินหรือไม่?
  58. Didn't you get home sick? เธอคิดถึงบ้านบ้างไหม?
  59. Do you accept credit cards? คุณรับบัตรเครดิตหรือเปล่า?
  60. Do you have a driver's license? คุณมีใบขับขี่หรือเปล่า?
  61. Do you have enough money? คุณมีเงินพอไหม?
  62. Do you hear me? ได้ยินที่ฉันพูดไหม?
  63. Do you know where the nearest post-office is, please? คุณทราบไหมว่าที่ทำการไปรษณีย์ที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหนหรือ?
  64. Do you mind if I open the window? คุณจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะเปิดหน้าต่าง?
  65. Do you mind if I take a picture with your car? คุณจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะขอถ่ายรูปกับรถคุณหน่อย?
  66. Do you see anything you like? คุณเจอสิ่งที่ชอบหรือยัง?
  67. Do you want to meet later for a drink? คุณอยากจะมาดื่มด้วยกันทีหลังไหม?
  68. Does he make you happy? เขาทำให้คุณมีความสุขหรือเปล่า?
  69. Don’t waste your time. อย่าเสียเวลาเลย
  70. Don't be ridiculous! อย่าเห็นเป็นเรื่องน่าขันนะ
  71. Don't be so modest! อย่าถ่อมตนมากนักเลย
  72. Don't condemn me. Forgive me. อย่าตำหนิฉัน ให้อภัยฉัน
  73. Don't count on me. อย่าไว้วางใจฉัน
  74. Don't disappoint me! อย่าทำให้ฉันผิดหวัง
  75. Don't forget to keep in touch. อย่าลืมติดต่อกันไปเรื่อยๆ นะ
  76. Don't forget to pick those letters up before you leave. อย่าลืมหยิบจดหมายเหล่านั้นด้วยก่อนคุณออกไปล่ะ
  77. Don't get me wrong! อย่าเข้าใจฉันผิด
  78. Don't give up! You can do it. อย่ายอมแพ้ คุณสามารถทำมันได้
  79. Don't keep me waiting long! อย่าให้ฉันคอยนานล่ะ
  80. Don't labor at your writing. อย่าพยายามอย่างหนักมากเกินไปกับงานเขียนของคุณ
  81. Don't let chances pass by! อย่าปล่อยให้โอกาสต่างๆ ผ่านเลยไป
  82. Don't listen to him. อย่าไปฟังเขา
  83. Don't start this again! อย่าได้เริ่มเรื่องนี้อีก
  84. Don't worry mate, you'll be all right. อย่ากังวลเลยเพื่อน นายจะผ่านไปด้วยดี
  85. Don't worry. Nothing has happened. อย่ากังวลเลย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก
  86. Don't you blame them? คุณจะไม่ตำหนิพวกเขาใช่ไหม?
  87. Don't you want to go to the cinema too? คุณไม่อยากไปดูหนังด้วยกันหรือ?
  88. Either one, it is up to you. ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับคุณ
  89. Even a child can answer this question. แม้แต่เด็กก็สามารถตอบคำถามนี้ได้
  90. Every other day. วันเว้นวัน
  91. Everybody enjoyed themselves at the party. ทุกคนต่างก็สนุกสนานที่งานปาร์ตี้
  92. Everybody has arrived. ทุกคนมาถึงแล้ว
  93. Everybody has to pay the same. ทุกคนต้องจ่ายแบบเดียวกันหมด
  94. Everybody knows where it is. ทุกคนรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน
  95. Everybody's gone, aren't they? ทุกคนไปกันหมดแล้วใช่ไหม?
  96. Excuse me, sorry to trouble you. คุณค่ะ ขอโทษด้วยที่รบกวน
  97. Face up to it. This time, it's over! ยอมรับมาเถอะ ตอนนี้มันสิ้นสุดแล้ว
  98. First come first served. มาถึงก่อนได้รับบริการก่อน
  99. First you hate them, then you get used to them. ตอนแรกนายก็เกลียดมัน จากนั้นนายก็จะชินกับมันเอง
  100. First, you have to give up. ประการแรกนายต้องยอมแพ้ก่อน
  101. Give me a call when you arrive. โทรหาฉันนะถ้าคุณไปถึงแล้ว
  102. Give me a minute. Let me read it first. ขอเวลาฉันสักครู่นะ ขอฉันอ่านมันก่อน
  103. Go out on another date with me? ออกไปเดทกันอีกครั้งกับผมไหม?
  104. Going back to the topic. กลับมาสู่หัวข้อได้แล้ว
  105. Great efforts ensure the success of our work. ความพยายามอย่างหนักเป็นหลักประกันความสำเร็จของพวกเรา
  106. Guess what I'm holding in my hand right now. ทายสิว่าฉันกำลังถืออะไรไว้ในมือตอนนี้
  107. Guess who just asked me to prom! เดาสิว่าใครเพิ่งจะขอให้ฉันไปงานเต้นรำด้วย
  108. Has everybody got a sheet? ทุกคนได้เอกสารแล้วหรือยัง?
  109. Have you lost anything? คุณทำอะไรหายหรือเปล่า?
  110. Have you lost interest in your friends? คุณไม่สนใจเพื่อนๆ คุณแล้วหรือไง?
  111. Have you made any friends? เธอได้เพื่อนใหม่บ้างหรือยัง?
  112. Have you seen my phone? คุณเห็นโทรศัพท์ฉันไหม
  113. Have you turned off the water? คุณปิดน้ำแล้วหรือยัง?
  114. He always lags behind the others. เขาตามไม่ทันคนอื่นเสมอ
  115. He appears older than he really is. เขาดูแก่กว่าที่เขาเป็นจริงๆ
  116. He asked her to go out with him. เขาขอให้เธอออกไปเที่ยวกับเขา
  117. He asked me to look after you. เขาขอให้ฉันดูแลคุณ
  118. He broke his words once again. เขาผิดคำพูดอีกครั้งแล้ว
  119. He broke off his holiday and returned to his home. เขายกเลิกวันหยุดพักผ่อนแล้วกลับมาบ้าน
  120. He changed horses in midstream. เขาก็เปลี่ยนใจกลางคัน
  121. He cheated on his wife. เขานอกใจภรรยา
  122. He dares not tell us his evil conduct. เขาไม่กล้าบอกพวกเราถึงความประพฤติที่ไม่ดีของเขาหรอก
  123. He denied wrongdoing. เขาปฏิเสธการกระทำความผิด
  124. He devoted his life to the study of science. เขาอุทิศชีวิตให้กับการศึกษาวิทยาศาสตร์
  125. He does everything without aim. เขาทำทุกสิ่งโดยปราศจากเป้าหมาย
  126. He doesn’t pay much attention to his work. เขาไม่ได้ใส่ใจกับงานของเขามากนัก
  127. He doesn't allow smoking in the office. เขาไม่อนุญาตให้มีการสูบบุหรี่ในที่ทำงาน
  128. He doesn't care about me. เขาไม่ได้สนใจฉัน
  129. He doesn't dare to tell me the truth. เขาไม่กล้าที่จะบอกความจริงกับฉัน
  130. He fell down and broke his arm. เขาล้มลงแล้วแขนหัก
  131. He got an A in English. เขาได้ A ในวิชาภาษาอังกฤษ
  132. He had no idea how to respond. เขาไม่รู้ว่าจะโต้ตอบอย่างไร
  133. He hardly sleeps at the moment. เขาแทบจะนอนไม่หลับในขณะนี้
  134. He has been waiting for you for over an hour. เขาคอยคุณมากว่าชั่วโมงแล้ว
  135. He has his car washed every week. เขานำรถไปล้างทุกสัปดาห์
  136. He has many strange ideas in his mind. เขามีความคิดแผงๆ มากมายในหัว
  137. He has such a bad headache that he has to go to bed. เขาปวดหัวมากจนต้องไปนอน
  138. He hired a workman to repair the fence. เขาจ้างคนงานคนหนึ่งมาซ่อมรั้ว
  139. He is a weird guy. เขาเป็นผู้ชายที่ประหลาดมาก
  140. He is an honest person. เขาเป็นคนซื่อสัตย์คนหนึ่ง
  141. He is anything but punctual. เขาไม่ตรงต่อเวลาเลย
  142. He is in charge of this class. เขาเป็นคนรับผิดชอบชั้นเรียนนี้
  143. He is kind. เขาเป็นคนใจดี
  144. He is not diligent. เขาไม่ขยัน
  145. He is not entitled to enter this office. เขาไม่ได้รับสิทธิให้เข้ามาในสำนักงานนี้
  146. He is still at least 30 minutes late every morning. เขาก็ยังคงสายอย่างน้อย 30 นาทีทุกเช้า
  147. He is studying hard as ever. เขากำลังอ่านหนังสือหนักตามเคย
  148. He is such an idiot! เขาช่างโง่เง่าจัง
  149. He is very nice-looking. เขาหน้าตาดีมากๆ
  150. He is very talented, according to his mother. ตามที่แม่เขาบอก เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากๆ
  151. He left ten minutes ago. เขาออกไปเมื่อ 10 นาทีมาแล้ว
  152. He lived abroad for many years. เขาอาศัยอยู่ต่างประเทศหลายปี
  153. He looks like he is in pain. เขาดูเหมือนเขาจะป่วย
  154. He loves to gossip Rose behind her back. เขาชอบนินทาโรสลับหลัง
  155. He made her a toy house. เขาทำบ้านของเล่นให้เธอ
  156. He made his first remarks in the public. เขาให้ข้อคิดเห็นเป็นครั้งแรกในที่สาธารณะ
  157. He made up an excuse. เขาสร้างเรื่องแก้ตัว
  158. He never misses a chance to see a movie. เขาไม่เคยพลาดโอกาสที่จะดูหนังเลย
  159. He paid no attention to my advice. เขาไม่สนใจคำแนะนำของฉัน
  160. He plans to go abroad next year. เขาวางแผนที่จะไปต่างประเทศปีหน้า
  161. He says he knows nothing about her. เขาบอกว่าเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเธอ
  162. He still hasn't asked her to marry him. เขายังคงไม่ขอเธอแต่งงาน
  163. He thinks he is somebody, but we think he is nobody. เขาคิดว่าเขาเป็นคนสำคัญ แต่พวกเราคิดว่าเขาไม่สำคัญอะไรเลย
  164. He thinks that I am too tired to work. เขาคิดว่าฉันเหนื่อยเกินกว่าที่จะทำงาน
  165. He turned his attention to his book. เขาหันความสนใจกลับมาที่หนังสือของเขา
  166. He used to be a heavy smoker. เขาเคยเป็นคนที่สูบบุหรี่หนัก
  167. He used to go fishing with us during the summer. เขาเคยไปตกปลากับเราในช่วงหน้าร้อน
  168. He used to learn everything by rote. เขาเคยเรียนทุกสิ่งโดยการท่องจำ
  169. He ushered the guests to their seats. เขานำแขกไปยังที่นั่ง
  170. He walked quickly along the road. เขาเดินไปตามถนนอย่างรวดเร็ว
  171. He wants to rent a house. เขาต้องการเช่าบ้านสักหลัง
  172. He was a great artist. เขาเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่
  173. He was married to a friend of mine. เขาแต่งงานกับเพื่อนคนหนึ่งของฉัน
  174. He was resigned to his fate. เขายอมจำนนต่อโชคชะตา
  175. He was too nervous to speak. เขาประหม่าเกินกว่าที่จะพูด
  176. He will blame you for carelessness. เขาจะตำหนิคุณที่สะเพร่า
  177. He will not give us permission. เขาจะไม่ให้อนุญาตพวกเรา
  178. He would like his son to go to single-sex school. เขาอยากให้ลูกชายไปโรงเรียนชาย
  179. Hello, I’ve been sent to take you. สวัสดีครับ ผมถูกส่งให้มารับคุณ
  180. He's a really interesting guy. เขาเป็นหนุ่มที่น่าสนใจจริงๆ
  181. He's a terrible man when he's angry. เขาเป็นคนที่น่ากลัวตอนที่เขาโกรธ
  182. He's admitted he was wrong. เขายอมรับว่าเขาผิด
  183. He's done his homework. เขาทำการบ้านเสร็จแล้ว
  184. He's missing his friends. เขากำลังคิดถึงเพื่อน
  185. He's nothing to me but an empty seat. เขาไม่สำคัญอะไรสำหรับฉันเป็นแค่เก้าอี้ว่างเปล่า
  186. He's on the phone. เขาติดสายอยู่
  187. He's quite shy really. จริงๆ แล้วเขาค่อนข้างขี้อาย
  188. He's scared of making mistakes. เขากลัวการทำผิดพลาด
  189. He's seeing someone else. เขากำลังคบหากับบางคนอยู่
  190. He's such an idiot! เขาช่างทึ่มอะไรอย่างนั้น
  191. He's told us all about you. เขาบอกพวกเราเกี่ยวกับคุณหมดแล้ว
  192. Hey this will put a smile on your face. เฮ้ นี่จะทำให้คุณยิ้มได้
  193. His cake is four times as big as mine. เค็กของเขาใหญ่กว่าของฉันถึงสี่เท่า
  194. His house is quite sizable. บ้านของเขาค่อนข้างใหญ่มาก
  195. His previous attempt had been unsuccessful. ความพยายามครั้งก่อนของเขาไม่ประสบผลสำเร็จ
  196. His relationship with this company has been of long-standing. ความสัมพันธ์ของเขากับบริษัทนี้มีมายาวนาน
  197. How about going to the cinema? ไปดูหนังเป็นไง?
  198. How are you feeling today? คุณรู้สึกอย่างไรบ้างวันนี้?
  199. How can I return your money? ฉันจะคืนเงินให้คุณได้อย่างไร?
  200. How did you find out? คุณทราบได้อย่างไร?
  201. How did your first day go? วันแรกของคุณเป็นไงบ้าง?
  202. How do we stop him? พวกเราจะหยุดเขาได้อย่างร?
  203. How do you spell your name? ชื่อของคุณสะกดอย่างไรหรือ?
  204. How long are you going for? คุณจะไปนานแค่ไหน?
  205. How long did it take you to speak English? คุณใช้เวลานานแค่ไหนในการพูดภาษาอังกฤษได้?
  206. How long does it take from Bangkok to Korat? จากกรุงเทพฯไปโคราชใช้เวลานานเท่าไหร่?
  207. How long have you been in this country? คุณอยู่ที่ประเทศนี้มานานแค่ไหนแล้ว?
  208. How long have you been like this? คุณเป็นอย่างนี้มานานแค่ไหนแล้ว?
  209. How long have you been working here? คุณทำงานที่นี่มานานแค่ไหน?
  210. How long will it take to learn a language? ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเรียนภาษา?
  211. How many children do you have? คุณมีลูกกี่คนหรือ?
  212. How many cigarette do you smoke a day? คุณสูบบุหรี่มากแค่ไหนต่อวัน?
  213. How many languages can you speak? คุณพูดได้กี่ภาษาหรือ?
  214. How many students are there in your class? มีนักเรียนกี่คนในชั้นเรียนของคุณ?
  215. How many times do I have to say this? ฉันต้องพูดอย่างนี้กี่ครั้งกี่หนแล้ว?
  216. How much did you pay for it? คุณจ่ายไปเท่าไหร่หรือ?
  217. How much time do you need to prepare for this exam? เธอต้องการเวลามากเท่าไหร่ในการเตรียมการสอบนี้?
  218. How much time does it take to write a book? ต้องใช้เวลามากเท่าไหร่ในการเขียนหนังสือสักเล่ม?
  219. How much time does it take? มันต้องใช้เวลามากเท่าไหร่?
  220. How much time it will take you to prepare for your exam? เธอต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการเตรียมตัวสำหรับการสอบ?
  221. How often do you change your toothbrush? คุณเปลี่ยนแปรงสีฟันบ่อยแค่ไหน?
  222. How often do you come to class late? คุณเข้าชั้นเรียนสายบ่อยแค่ไหน?
  223. How often do you go to the movie? คุณไปดูหนังบ่อยแค่ไหน?
  224. How often do you play cards? คุณเล่นไพ่บ่อยแค่ไหน?
  225. How should I know? ฉันจะรู้ได้อย่างไร?
  226. How was your weekend? วันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณเป็นไงบ้าง?
  227. I accept that you will never love me. ฉันยอมรับว่าคุณจะไม่มีทางรักฉันเลย
  228. I accept your excuse for being late. ฉันยอมรับคำแก้ตัวในการมาสายของคุณ
  229. I admit it was my mistake. ฉันยอมรับว่ามันเป็นความผิดของฉัน
  230. I advise you to control yourself. ฉันแนะนำให้คุณควบคุมตัวเอง
  231. I am a little bit tired after a long journey. ฉันเหนื่อยนิดหน่อยหลังการเดินทางยาวนาน
  232. I am afraid he would jump bail. ฉันเกรงว่าเขาอาจหนีประกัน
  233. I am glad to see you're well. ฉันดีใจที่เห็นว่าคุณสบายดี
  234. I am grateful for your help. ฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณ
  235. I am having so many things to tell you. ฉันมีเรื่องราวต่างๆ มากมายที่อยากจะบอกคุณ
  236. I am in charge of the company when the manager is out. ฉันดูแลรับผิดชอบบริษัทนี้เมื่อผู้จัดการไม่อยู่
  237. I am not afraid of your opinion. ฉันไม่กลัวความเห็นของคุณ
  238. I am not comfortable answering personal questions. ฉันไม่สะดวกที่จะตอบคำถามในเรื่องส่วนตัว
  239. I am ready to resign from my office. ฉันพร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่งของฉัน
  240. I am sorry to bother you. ฉันขอโทษด้วยที่รบกวนคุณ
  241. I am sorry. I have to admit I told him. ฉันขอโทษด้วย ฉันยอมรับว่าฉันบอกเขา
  242. I am troubled by those problems. ฉันเป็นทุกข์กับปัญหาเหล่านั้น
  243. I assure you that you will feel no pain at all. ฉันขอรับรองกับคุณว่าคุณจะไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด
  244. I attended elementary school in… ฉันเข้าโรงเรียนประถมศึกษาที่...
  245. I barely escaped the collapsing building. ฉันเกือบจะหนีรอดออกมาจากตึกที่ถล่มลงมาแทบไม่ทัน
  246. I can accept constructive criticism. ฉันสามารถยอมรับคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ได้
  247. I cannot put up with my noisy roommates. ฉันทนกับเพื่อนร่วมห้องที่ส่งเสียงดังไม่ได้
  248. I can't afford better food. ฉันไม่สามารถซื้ออาหารดีๆ ทานได้
  249. I can't afford the time for a course. ฉันไม่สามารถหาเวลามาเรียนสักหลักสูตรได้
  250. I can't find anybody to help me. ฉันไม่สามารถหาใครมาช่วยฉันได้
  251. I can't help feeling it. มันช่วยไม่ได้ที่ฉันรู้สึกอย่างนั้น
  252. I can't keep thinking about you. ฉันไม่สามารถคิดถึงคุณต่อไปได้อีก
  253. I can't make this machine run properly. ฉันไม่สามารถทำให้เครื่องยนต์นี้ทำงานอย่างเต็มที่ได้
  254. I can't put up with that noise anymore. ฉันไม่สามารถจะทนต่อเสียงพวกนั้นได้อีกแล้ว
  255. I can't wait any longer. ฉันไม่สามารถคอยต่อไปอีกแล้ว
  256. I caught you out myself. ฉันจับคุณได้คาหนังคาเขา
  257. I could hardly speak. ฉันแทบพูดอะไรไม่ออก
  258. I couldn't believe my ears. ฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
  259. I couldn't believe what I was hearing. ฉันไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ฉันได้ยิน
  260. I couldn't help it. มันช่วยไม่ได้
  261. I count you as one of my friends. ฉันถือว่าคุณเป็นหนึ่งในเพื่อนๆ ของฉัน
  262. I decided not to tell anyone. ฉันตัดสินใจที่จะไม่บอกใคร
  263. I did very badly in my practice test last week. ฉันทำได้แย่มากๆ ตอนสอบปฏิบัติสัปดาห์ที่ผ่าน
  264. I didn't care no more about him. ฉันไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว
  265. I didn't deserve it, either. ฉันไม่สมควรได้รับมันเช่นกัน
  266. I didn't plan it this way. ฉันไม่ได้วางแผนให้เป็นแบบนี้เลย
  267. I do hope you can help me. ฉันหวังจริงๆ ว่าคุณจะช่วยฉันได้
  268. I don’t know where to start. ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร
  269. I don't care whether it rains or not. ฉันไม่สนใจว่าฝนจะตกหรือไม่
  270. I don't ever want to speak to you again. ฉันไม่เคยอยากจะพูดกับคุณอีกเลย
  271. I don't have that problem. ฉันไม่เคยมีปัญหาอย่างนั้น
  272. I don't know how to cook. ฉันทำอาหารไม่เป็น
  273. I don't know how to express my gratitude. ฉันไม่ทราบว่าจะแสดงความรู้สึกซาบซึ้งใจได้อย่างไร
  274. I don't know the details. ฉันไม่ทราบรายละเอียด
  275. I don't know where my money goes. ฉันไม่รู้ว่าเงินของฉันหายไปไหน
  276. I don't like what you are saying. ฉันไม่ชอบสิ่งที่คุณกำลังพูดนี่
  277. I don't really know anything about cars. ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับรถเลยจริงๆ
  278. I don't recall what I got for my first Christmas. ฉันนึกไม่ออกว่าได้อะไรในวันฉลองคริสต์มาสต์ครั้งแรกของฉัน
  279. I don't see what you mean. ฉันไม่ทราบว่าคุณหมายความว่าอย่างไร?
  280. I don't think I can go on without you. ฉันไม่คิดว่าฉันจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีคุณได้
  281. I don't think it will lead to a good result. ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นผลดีอะไร
  282. I don't think you should carry on doing that. ฉันคิดว่าคุณไม่ควรทำสิ่งนั้นต่อ
  283. I don't want to talk about it any more. ฉันไม่อยากจะพูดถึงมันอีกต่อไป
  284. I doubt whether I should believe him. ฉันไม่แน่ใจว่าฉันควรจะเชื่อเขาดีไหม
  285. I feel a bit uneasy when I walked home in the dark. ฉันรู้สึกเป็นกังวลเมื่อต้องเดินกลับบ้านในที่มืด
  286. I found a good car for you. ฉันหารถดีๆ คันหนึ่งให้คุณได้แล้ว
  287. I give up on him. ฉันตัดหางปล่อยวัดเขาแล้ว
  288. I got a special bonus at work. ฉันได้โบนัสพิเศษจากที่ทำงาน
  289. I gradually made quite a few friends. ฉันก็ค่อยๆ ทำความรู้จักกับเพื่อน 2-3 คนบ้างแล้ว
  290. I graduated from high school there. ฉันจบโรงเรียนในชั้นมัธยมปลายที่นั่น
  291. I had an appointment with a dentist. ฉันมีนัดกับหมอฟัน
  292. I have a lot in common with my sister. ฉันมีอะไรเหมือนกับพี่สาวของฉันมาก
  293. I have a terrible hangover. ฉันเมาค้างอย่างหนัก
  294. I have another call coming in. ฉันมีอีกสายเข้ามา
  295. I have asked him so many times to arrive on time. ฉันขอร้องเขาหลายครั้งให้มาตรงเวลา
  296. I have been here 3 times before. ฉันเคยมาที่นี่ 3 ครั้งมาก่อน
  297. I have given up on him; he never does what he promises. ฉันเลิกเชื่อถือเขาแล้ว เขาไม่เคยทำสิ่งที่เขาสัญญาได้เลย
  298. I have my exam today. วันนี้ฉันมีสอบ
  299. I have no choice. ฉันไม่มีทางเลือก
  300. I have no time for such things. ฉันไม่มีเวลาสำหรับเรื่องพวกนั้น
  301. I have to do extra work at night time. ฉันต้องทำงานพิเศษในตอนกลางคืน
  302. I have to say it was a great year for me. ฉันคงต้องพูดว่ามันเป็นปีที่เยี่ยมมากสำหรับฉัน
  303. I haven't decided whether to take the job or not. ฉันยังไม่ตัดสินใจเลยว่าจะรับงานนั้นหรือไม่
  304. I haven't done anything wrong. ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
  305. I haven't done it before. ฉันไม่เคยทำมันมาก่อน
  306. I haven't had anything to eat since I arrived. ฉันยังไม่ได้ทานอะไรนับตั้งแต่มาถึง
  307. I haven't heard of them. ฉันไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
  308. I heard what he was saying. ฉันได้ยินที่เขาพูด
  309. I hope you enjoy your stay with us. ฉันหวังว่าคุณจะชอบที่ได้มาพักอยู่กับเรา
  310. I hope you have another great year next year. ฉันหวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ยอดเยี่ยมอีกปีหนึ่งของคุณนะ
  311. I hope you will understand that. ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจเรื่องนั้น
  312. I hurt my elbow. ฉันเจ็บข้อศอก
  313. I imagine someone must have made a mistake. ฉันคิดว่าใครบางคนต้องทำอะไรผิดพลาด
  314. I just want to know the truth. ฉันแค่อยากจะทราบความจริง
  315. I knew for a certainty that his real name is Smith. ฉันทราบเป็นที่แน่นอนแล้วว่าชื่อจริงๆ ของเขาคือสมิธ
  316. I knew the answer as soon as she asked the question. ฉันทราบคำตอบแล้วในทันทีที่เธอถามคำถาม
  317. I know all about your other lady. ฉันรู้เกี่ยวกับผู้หญิงคนอื่นของคุณหมดแล้ว
  318. I live among the mountains. พวกเขาอาศัยอยู่ในท่ามกลางภูเขา
  319. I lost my job almost 6 months ago. ฉันตกงานมากว่า 6 เดือนแล้ว
  320. I made a terrible mistake tonight. ฉันทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงคืนนี้
  321. I make a promise to myself. ฉันสัญญากับตัวเอง
  322. I might be able to help you with that. ฉันอาจจะสามารถช่วยคุณเรื่องนั้นได้
  323. I must leave you now. Make yourselves at home. ฉันต้องไปก่อน ทำตัวตามสบายนะ
  324. I must try not to do it any more. ฉันจะต้องไม่พยายามทำมันอีกต่อไป
  325. I need a bit of advice from you. ฉันต้องการคำแนะนำจากคุณสักหน่อย
  326. I need to study. ฉันต้องอ่านหนังสือ
  327. I need to talk to you about something. ฉันอยากพูดกับคุณบางเรื่อง
  328. I never had any problem. ฉันเคยมีปัญหาใดใด
  329. I never thought of it before. ฉันไม่เคยคิดถึงมันมาก่อน
  330. I often leave my house at seven. ฉันมักจะออกจากบ้านตอนเจ็ดโมง
  331. I often walk to work. ฉันมักจะเดินไปทำงาน
  332. I only bought it two weeks ago. ฉันเพิ่งซื้อมันมาได้สองสัปดาห์นี่เอง
  333. I only found out last week that she's getting married. ฉันก็แค่ทราบเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเธอกำลังจะแต่งงาน
  334. I paid no attention to her at all ฉันไม่ได้ให้ความสนใจกับเธอเลยแม้แต่น้อย
  335. I promise I will always do my best. ฉันสัญญาว่าฉันจะทำให้ดีที่สุดเสมอ
  336. I promise, it won't make any difference to us! ฉันสัญญาว่า ทุกอย่างจะเหมือนเดิมสำหรับเรา
  337. I put my phone down somewhere and now I can't find it. ฉันวางโทรศัพท์ไว้ที่ไหนสักแห่งและตอนนี้ฉันหามันไม่เจอ
  338. I really believe in him. ฉันเชื่อในตัวเขาจริงๆ
  339. I really don't care. ฉันไม่สนใจจริงๆ
  340. I really like you but I'm not ready to settle down. ฉันชอบคุณจริงๆ นะ แต่ฉันยังไม่พร้อมที่จะปักหลัก
  341. I really think you should stop. ฉันคิดว่าจริงๆ แล้วคุณควรเลิกทำมันไปเลย
  342. I received an invitation, but I did not accept it. ฉันได้รับคำเชิญ แต่ฉันไม่ได้ตอบรับ
  343. I resign myself to failure. ฉันยอมให้ตนเองล้มเหลว
  344. I saw it with my own eyes. ฉันเห็นมันกับตาตัวเอง
  345. I see, and she's not bad looking, I suppose? ฉันเข้าใจแล้ว และคิดว่าเธอก็หน้าตาดีด้วยใช่ไหม?
  346. I should have told them about the danger. ฉันควรจะบอกพวกเขาถึงอันตรายนั่น
  347. I spent only half an hour in the town. ฉันใช้เวลาแค่เพียงครึ่งชั่วโมงในเมือง
  348. I stayed home and cleaned my room. ฉันอยู่ที่บ้านและทำความสะอาดห้อง
  349. I still think you should tell him. ฉันยังคงคิดว่าคุณควรจะบอกเขา
  350. I think he is nonsense. ฉันคิดว่าเขาไร้สาระ
  351. I think I'm going to be sick. ฉันคิดว่า ฉันกำลังจะป่วย
  352. I think it would be wrong for me... ฉันคิดว่ามันอาจจะเป็นการไม่ถูกต้องสำหรับฉัน...
  353. I think I've filled in everything correctly. ฉันคิดว่าฉันได้เติมทุกสิ่งถูกต้องหมดแล้ว
  354. I think I've found something of yours. ฉันคิดว่า ฉันพบบางสิ่งบางอย่างของคุณ
  355. I think she kind of likes me. ฉันคิดว่าเธอค่อนข้างชอบฉันนะ
  356. I think we should get something to eat. ฉันคิดว่าพวกเราควรหาอะไรบางอย่างทาน
  357. I think we should leave these two alone. ฉันคิดว่าเราควรปล่อยพวกเขาสองคนไว้ตามลำพัง
  358. I think we've been getting on well together. ฉันคิดว่าพวกเราเข้ากันได้ดี
  359. I thought I give you a ring. ฉันคิดว่าฉันน่าจะโทรหาคุณ
  360. I thought that might have taken long times. ฉันคิดว่านั่นอาจต้องใช้เวลานาน
  361. I tried new thing, thing that I never tried before. ฉันพยายามทำสิ่งใหม่ที่ฉันไม่เคยทำมาก่อน
  362. I wanna know certain things first! ฉันต้องการทราบบางสิ่งก่อน
  363. I want to meet someone who gorgeous, funny and rich. ฉันอยากเจอใครบางคนที่หล่อ ตลก และก็รวย
  364. I want to see an end to the troubles. ฉันอยากเห็นการสิ้นสุดของปัญหาต่างๆ
  365. I want us to trust each other. ฉันต้องการให้พวกเราเชื่อใจกันและกัน
  366. I want you to be serious now. ฉันอยากให้คุณเอาจริงเอาจังตอนนี้
  367. I want you to finish this by tomorrow. ฉันอยากให้คุณทำงานนี่ให้เสร็จภายในพรุ่งนี้
  368. I want you to promise me something. ฉันอยากขอให้คุณให้สัญญากับฉันบางอย่าง
  369. I was alone but not lonely. ฉันอยู่ตามลำพังแต่ก็ไม่โดดเดี่ยว
  370. I was born in Chiangmai in 1984. ฉันเกิดในเชียงใหม่ ในปี ค.ศ. 1984
  371. I was expecting at least 92 percent. ฉันคาดหมายไว้อย่างน้อย 92 เปอร์เซ็นต์
  372. I was studying before you phoned me. หนูก็กำลังศึกษาอยู่ก่อนที่แม่โทรมาหา
  373. I will be back by the end of next month. ฉันจะกลับมาราวปลายเดือนหน้า
  374. I will be more careful. ฉันจะระวังให้มากขึ้น
  375. I will leave for India in June. ฉันจะออกเดินทางไปอินเดียในเดือนมิถุนายน
  376. I will live in the farm for the remainder of my life. ฉันจะอาศัยอยู่ในฟาร์มตลอดชีวิตที่เหลืออยู่
  377. I will never forget it. ฉันจะไม่ลืมมันเลย
  378. I wish I could do something different. ฉันปรารถนาให้ตนเองทำอะไรบางสิ่งที่แตกต่าง
  379. I wish I had been on time for school. ฉันขอให้ไปโรงเรียนตรงเวลา
  380. I wish I had passed the exam. ฉันขอให้ตนเองสอบผ่าน
  381. I wish I had remembered to set my alarm. ฉันขอให้ตัวเองจำได้ว่าต้องตั้งนาฬิกาปลุก
  382. I wish I hadn't been late for school. ฉันขอให้ตัวเองอย่าไปโรงเรียนสาย
  383. I wish I hadn't failed the exam. ฉันขอให้ตนเองไม่สอบตก
  384. I wish I hadn't forgotten to set my alarm. ฉันขอให้ตัวเองไม่ลืมตั้งนาฬิกาปลุก
  385. I wish I hadn't slept late. ฉันขอให้ตนเองอย่านอนดึก
  386. I won’t change my mind. ฉันจะไม่เปลี่ยนใจ
  387. I wonder if it would be possible to reduce the rent a little bit? ฉันอยากจะทราบว่าพอจะเป็นไปได้ไหมที่จะลดค่าเช่าลงสักหน่อย?
  388. I wonder what's wrong. ฉันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
  389. I won't take much of your time. ฉันจะไม่ทำให้คุณเสียเวลามากนัก
  390. I would be very grateful if you would help me. ฉันจะสำนึกในบุญคุณเป็นอย่างมากถ้าคุณช่วยฉัน
  391. I would like to express my grateful thank to you. ฉันอยากจะแสดงความขอบคุณต่อคุณเป็นอย่างยิ่ง
  392. I would like to express my sincere thank to them. ฉันอยากจะแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อพวกเขา
  393. I would like to gain real life work experience. ฉันอยากจะได้ปะสบการณ์การทำงานจากชีวิตจริง
  394. I would like to have fish for dinner. ฉันอยากจะทานปลาเป็นอาหารเย็น
  395. I would like to tell you that… ฉันอยากจะบอกกับคุณว่า
  396. I would never cheat on you. ฉันจะไม่มีวันนอกใจคุณ
  397. I would rather you didn't tell him. ฉันไม่อยากให้คุณบอกเขาเลย
  398. I would really like to study computer. ฉันอยากเรียนคอมพิวเตอร์จริงๆ
  399. I’ll miss my friends. ฉันคงจะคิดถึงเพื่อนๆ
  400. I’ve been afraid of your reaction. ฉันกลัวปฏิกิริยาของคุณ
  401. I'd like to book two tickets for next week. ฉันอยากจะจองตั๋วหนังสองที่สำหรับสัปดาห์หน้า
  402. I'd like us to be better friends. ฉันอยากให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากขึ้น
  403. I'd love to, but I have to work a night shift next weekend. ฉันก็อยากจะมา แต่ฉันต้องทำงานกะกลางคืนในสุดสัปดาห์หน้า
  404. If you don't work, you'll fail to pass the exam. ถ้าเธอไม่อ่านหนังสือ เธอก็จะสอบไม่ผ่าน
  405. If you jump the queue you will make yourself unpopular. ถ้าคุณลัดคิว คุณจะทำให้ตัวเองไม่เป็นที่ชื่นชอบ
  406. If you need a place to park, use one of these spaces. ถ้าคุณต้องการที่สำหรับจอดรถ ใช้ที่ว่างสักที่นี่สิ
  407. If you want to be served prior to anyone else. ถ้าคุณอยากจะได้รับบริการก่อนคนอื่นๆ
  408. If you would only try, you could do it. ถ้าเพียงแต่เธอพยายาม เธอก็สามารถทำมันได้
  409. I'll be with you in a minute or two. ฉันจะมาหาคุณในอีกสักครู่
  410. I'll buy some later today. ฉันจะซื้อบางส่วนทีหลังในวันนี้
  411. I'll get off in 10 minutes. ฉันจะเลิกงานใน 10 นาทีนี่แหล่ะ
  412. I'll send someone with you. ฉันจะส่งใครบางคุณไปกับคุณ
  413. I'll try my best. ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุด
  414. I'm a bit curious about this. ฉันอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้
  415. I'm afraid that I cannot help you. ฉันเกรงว่าฉันไม่สามารถช่วยคุณได้
  416. I'm asking for your opinion. ฉันกำลังถามความเห็นของคุณ
  417. I'm feeling a bit better today. วันนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย
  418. I'm feeling healthy now. ตอนนี้ฉันรู้สึกแข็งแรงดีแล้ว
  419. I'm finding it's difficult to make up my mind. ฉันพบว่ามันยากที่จะตัดสินใจ
  420. I'm frightened of spiders. ฉันกลัวแมงมุม
  421. I'm going back to Bangkok for good. ฉันจะกลับไปกรุงเทพฯ อย่างถาวร
  422. I'm going back to my home to look after my dad. ฉันจะกลับไปบ้านไปดูแลพ่อ
  423. I'm going to give up fast food. ฉันจะเลิกทานอาหารจานด่วน
  424. I'm going to see a film tonight. ฉันกำลังจะไปดูหนังคืนนี้
  425. I'm going to visit my uncle next summer. ฉันจะไปเยี่ยมลุงของฉันในหน้าร้อนนี้
  426. I'm having a really good time. ฉันสนุกจริงๆ
  427. I'm kind of happy that school has finished. ฉันค่อนข้างมีความสุขที่โรงเรียนปิดเทอมแล้ว
  428. I'm kind of hungry. ฉันค่อนข้างหิวน่ะ
  429. I'm looking for a man's watch. ฉันกำลังมองหานาฬิกาข้อมือสำหรับผู้ชาย
  430. I'm looking for a very special gift for a very special person. ฉันกำลังมองหาของขวัญพิเศษมากๆ สำหรับคนที่พิเศษมากๆ
  431. I'm lucky I found you first. โชคดีที่ฉันเจอคุณเป็นคนแรก
  432. I'm not a bit hungry. ฉันไม่หิวสักนิด
  433. I'm not sure whether I have locked the door. ฉันไม่แน่ใจว่าฉันได้ล็อคประตูหรือเปล่า
  434. I'm on the phone with Jim. ฉันติดสายกับจิมอยู่
  435. I'm really beginning to run out of money. เงินของฉันเริ่มจะหมดแล้วจริงๆ
  436. I'm really kind of embarrassed. ฉันค่อนข้างกระดากอายจริงๆ
  437. I'm seeing somebody now. ฉันกำลังคบหากับใครบางคนอยู่ตอนนี้
  438. I'm single just now. ฉันเป็นโสดอยู่ในตอนนี้
  439. I'm so broke just now. ฉันถังแตกอย่างมากในตอนนี้
  440. I'm so miserable! ฉันรู้สึกทุกข์ระทมเหลือเกิน
  441. I'm so sorry you've been inconvenienced. ขอโทษด้วยที่คุณได้รับความไม่สะดวก
  442. I'm sorry to have bothered you. ฉันขอโทษด้วยที่รบกวนคุณ
  443. I'm sorry, but I don't understand. ขอโทษด้วย ฉันไม่เข้าใจค่ะ
  444. I'm sorry, he's out in the morning. เสียใจด้วยค่ะ เขาออกไปในตอนเช้าแล้ว
  445. I'm sorry. I didn't mean to question you. ฉันขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะสงสัยคุณ
  446. I'm sure they did. ฉันแน่ใจว่าพวกเขาสนุก
  447. I'm sure we can help you. ฉันแน่ใจว่าพวกเราจะช่วยคุณได้
  448. I'm thinking about my career. ฉันกำลังคิดถึงอาชีพของฉันอยู่
  449. I'm tired and you'd better start back home. ฉันเหนื่อยและคุณก็ควรจะกลับบ้านไปได้แล้ว
  450. I'm tired of my wife's unceasing complaints. ฉันเหนื่อยหน่ายกับการบ่นไม่มีหยุดของภรรยา
  451. I'm totally against him. ฉันต่อต้านเขาอย่างเต็มที่
  452. I'm trying to give up fast food. ฉันจะพยายามเลิกทานอาหารจานด่วน
  453. I'm writing a paper on him. ฉันกำลังเขียนบทความเกี่ยวกับเขา
  454. In order to meet all expenses in the big family. เพื่อให้มีเงินพอเพียงสำหรับรายจ่ายทั้งหมดในครอบครัวขนาดใหญ่
  455. In that case, there's only one explanation. ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็มีคำอธิบายเพียงประการเดียว
  456. Is it safe to swim here? มันปลอดภัยที่จะว่ายน้ำที่นี่ไหม?
  457. Is it true that you went to boarding school? เป็นความจริงหรือที่เธอไปเข้าโรงเรียนประจำ?
  458. Is it worth seeing? มันดีพอที่จะไปชมไหม?
  459. Is that your sister over there? นั่นน้องสาวคุณอยู่ที่นั่นหรือ?
  460. Is the film good? (Is it any good?) หนังเรื่องนี้ดีไหม?
  461. Is there anything you want to say to me? คุณมีอะไรจะพูดกับฉันอีกหรือเปล่า?
  462. Is there something wrong? มีอะไรผิดปกติหรือ? เกิดอะไรขึ้นหรือ?
  463. Is there something you want to talk about? เธออยากพูดเกี่ยวกับอะไรอีกไหม?
  464. It does not matter what you believe. มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณเชื่อในสิ่งใด
  465. It does not take long. มันใช้เวลาไม่นานนัก
  466. It doesn't rain much there, does it? ที่นั่นฝนไม่ตกมากนักใช่ไหม?
  467. It has an effect on my health. ฉันได้รับผลกระทบในด้านสุขภาพ
  468. It is a long time since we've been here. พวกเรามาอยู่ที่นี่นานแล้ว
  469. It is no use learning without thinking. ไม่มีประโยชน์ที่จะเรียนรู้โดยปราศจากการคิด
  470. It is rather difficult to write good and correct sentences. มันค่อนข้างยากที่จะเขียนประโยคให้ดีและถูกต้อง
  471. It is really romantic. มันช่างโรแมนติกจริงๆ
  472. It is unclear precisely what happened with him. มันไม่ชัดเจนแน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
  473. It is up to you to determine your future. มันขึ้นอยู่กับคุณที่จะกำหนดอนาคตของตนเอง
  474. It looks like one we used to play when we were children. มันดูเหมือนเกมที่พวกเราเคยเล่นเมื่อตอนเด็กๆ
  475. It must be time for tea! Let's talk later. ถึงเวลาดื่มชาแล้ว ไว้คุยกันทีหลังนะ
  476. It seemed as if there was no way out. มันดูเหมือนว่าไม่มีทางออกเลย
  477. It takes about 3 hours by bus. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยรถบัส
  478. It takes about 40 minutes by plane. ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยเครื่องบิน
  479. It takes about three hours. มันต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
  480. It takes you about 20 minutes to drive there. คุณใช้เวลาขับรถไปที่นั่นราว 20 นาที
  481. It took him a little time to fix that watch. เขาใช้เวลาเล็กน้อยในการซ่อมนาฬิกานั่น
  482. It took me about five years to speak English. ฉันใช้เวลาราว 5 ปีในการพูดภาษาอังกฤษ
  483. It took us three hours to go to Hua Hin. พวกเราใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงไปถึงหัวหิน
  484. It was a very good learning experience. มันเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีมากๆ
  485. It wasn't? Oh, I thought it was. มันไม่ใช่หรือ? โอ ฉันคิดว่ามันใช่?
  486. It would be really nice if you could join us. มันคงจะดีนะถ้าคุณได้ร่วมวงกับเรา
  487. It’s a bit strange. มันแปลกประหลาดเล็กน้อย
  488. It's a good idea not to work too much. เป็นความคิดที่ดีที่ไม่ต้องทำงานหนักมากนัก
  489. It's a one-way ticket I’ve booked. ฉันจองตั๋วขาเดียวไว้
  490. It's a secret between you and me. มันเป็นความลับระหว่างคุณกับฉัน
  491. It's almost a year since I came to live here. เกือบหนึ่งปีแล้วที่ฉันมาอยู่ที่นี่
  492. It's been over for a long time. มันจบลงนานแล้ว
  493. It's best to be open-minded. มันดีที่สุดที่จะเปิดรับความเห็นคนอื่น/เปิดใจ
  494. It's boring to see the same film again. มันน่าเบื่อที่ต้องดูหนังเรื่องเดิมอีก
  495. It's difficult for him to get up early. มันยากสำหรับเขาที่จะตื่นแต่เช้า
  496. It's easy to find. Ask anyone. มันง่ายที่จะค้นหา ถามใครก็ได้
  497. It's essential to go to school. เป็นความจำเป็นที่ต้องไปโรงเรียน
  498. It's foggy. It's hot. It's cold. มีหมอก ร้อน หนาว
  499. It's good for both of us to practice. มันดีสำหรับเราสองคนที่จะได้ฝึกฝน
  500. It's impossible to speak English like a native speaker. มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดภาษาอังกฤษอย่างคนที่ใช้ภาษาอังกฤษมาแต่เกิด
  501. It's interesting in its own way. มันน่าสนใจในแบบของมัน
  502. It's just nice to see you smiling. ดีที่ได้เห็นคุณยิ้ม
  503. It's just what I need. นั่นแหล่ะคือสิ่งที่ฉันต้องการ
  504. It's kind of hot, but it's very tasty. มันค่อนข้างร้อน แต่ก็อร่อยมาก
  505. It's nice to be back. ดีจังที่ได้กลับมา
  506. It's not difficult for me to speak English, มันไม่ยากสำหรับฉันที่จะพูดภาษาอังกฤษ
  507. It's not so easy as you think. มันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดหรอกนะ
  508. It's not too late to change your mind. มันยังไม่สายเกินไปที่คุณจะเปลี่ยนใจ
  509. It's not true! He's making it up. มันไม่จริงนะ เขากุเรื่องขึ้นมา
  510. It's one of my favorites. มันเป็นหนึ่งในของโปรดของฉัน
  511. It's pretty comfortable and very convenient. ค่อนข้างสะดวกสบายมาก
  512. It's raining so you need to use your umbrella. ฝนกำลังตกอยู่ ดังนั้นคุณต้องใช้ร่ม
  513. It's rude to stare at other people. การจ้องมองคนอื่นนั้นไม่สุภาพ
  514. It's so nice to have you around. ดีจังที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ
  515. It's so quiet at work. ที่ทำงานเงียบเหงามากเหลือเกิน
  516. It's still under guarantee. มันยังคงอยู่ในระยะประกัน
  517. It's stormy. It's frozen. It's cloudy. มีพายุ หนาวยะเยือก/หนาวจัด มีเมฆหมอก
  518. It's stupid to discuss with that guy. ไร้สาระที่จะมาถกเถียงกับคนอย่างนั้น
  519. It's sunny. It's rainy. It's snowy. แดดออก ฝนตก หิมะตก
  520. It's the best experience ever. มันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่เคยมีมา
  521. It's the third time I’ve told you. เป็นครั้งที่สามแล้วที่ฉันบอกกับคุณ
  522. It's time for me to look after myself more. ถึงเวลาแล้วที่ฉันต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น
  523. It's time to stop working so hard. ถึงเวลาต้องหยุดทำงานอย่างหนักซะที
  524. It's too painful. มันเจ็บปวดมาก
  525. It's warm. It's humid. It's windy. อบอุ่น ชุ่มชื้น มีลมแรง
  526. I've already had a bit, thank you. ฉันทานไปนิดหนึ่งแล้ว ขอบคุณ
  527. I've already heard the news. ฉันได้ยินข่าวนั่นแล้ว
  528. I've become more patient than before. ฉันกลายเป็นคนที่อดทนมากกว่าเมื่อก่อน
  529. I've been trying to tell you this for weeks. ฉันพยายามจะบอกสิ่งนี้กับคุณมาเป็นสัปดาห์แล้ว
  530. I've come to see the show. ฉันมาเพื่อดูการแสดง
  531. I've decided to cancel lunch. ฉันได้ตัดสินใจยกเลิกอาหารเที่ยง
  532. I've give up on algebra. ฉันเลิกหวังกับวิชาพีชคณิตแล้ว
  533. I've got a bit of a temperature. ฉันมีไข้เล็กน้อย
  534. I've got a pain stomach. ฉันปวดท้อง
  535. I've got loads of studying to do. ฉันมีเรื่องเรียนมากมายที่ต้องทำ
  536. I've got to get back to the flat. ฉันต้องกลับไปที่แฟลตแล้ว
  537. I've got too much work to do. ฉันมีงานมากเหลือเกินที่ต้องทำ
  538. I've known about it for a very long time. ฉันรู้เกี่ยวกับมันมานานแล้ว
  539. I've lived here my whole life. ฉันอยู่ที่นี่มาตลอดชีวิต
  540. I've never seen anyone study so hard. ฉันไม่เคยเห็นใครเรียนหนักขนาดนี้
  541. I've really enjoyed your company today. ฉันสนุกจริงๆ ที่คุณมาเป็นเพื่อนในวันนี้
  542. Jim wants to shave his head. จิมอยากโกนศีรษะ
  543. Just give me 2 minutes of your time. ขอเวลาให้ฉันแค่ 2 นาทีก็พอ
  544. Just one carton. แค่หนึ่งซอง
  545. Just relax, be yourself. แค่ผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเอง
  546. Just simply make it natural and easy to understand. แค่ทำให้มันง่ายๆ เป็นธรรมชาติ และเข้าใจง่าย
  547. Just this once. แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
  548. Just under the departure sign thanks. ตรงใต้ป้ายออกเดินทางนั่นค่ะ ขอบคุณมาก
  549. Just wait and see. แค่คอยดูเท่านั้น
  550. Keep your shirt on! We have plenty of time. คอยเดี๋ยวก่อน พวกเรามีเวลาเหลือเฟือ
  551. Last year, I did accomplish a lot. ปีที่แล้วฉันประสบความสำเร็จมาก
  552. Let bygones be bygones! ที่ผ่านไปแล้ว ก็ให้มันแล้วไปเถอะ
  553. Let me give you a hug. ขอฉันกอดคุณหน่อยนะ
  554. Let me give you an example,… ขอฉันยกตัวอย่างให้คุณฟังหน่อย
  555. Let me illustrate… ขอฉันอธิบาย
  556. Let me show you how this works. ขอฉันสาธิตให้คุณดูว่ามันทำงานอย่างไร
  557. Let me tell you some details about… ขอฉันบอกรายละเอียดบางอย่างกับคุณเกี่ยวกับ
  558. Let not waste your time! อย่าเสียเวลาเปล่าเลย
  559. Let us know what you think of this report. บอกให้เรารู้ด้วยว่าคุณคิดอย่างไรกับรายงานนี้
  560. Let's divide the cake into three. มาแบ่งเค็กนี้ออกเป็นสามส่วนเถอะ
  561. Let's get started. มาเริ่มต้นกันเถอะ
  562. Let's go out and have some fun. ออกไปเที่ยวหาความสำราญกันเถอะ
  563. Let's sit here on the beach. มานั่งที่ตรงชายหาดนี่เถอะ
  564. Life is full of ups and downs. ชีวิตเต็มไปด้วยขาขึ้นและขาลง
  565. Listen to me carefully! ฟังฉันอย่างตั้งใจด้วย
  566. Listen, I need you advice. ฟังนะฉันต้องการคำแนะนำของคุณ
  567. Living in Bangkok affects my health. การอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯมีผลต่อสุขภาพของฉัน
  568. Long time no see. ไม่ได้เจอกันนานเลย
  569. Look, why don't you go with him? ฟังนะ ทำไมไม่ไปกับเขา?
  570. Many a man died in the battle. คนจำนวนมากตายในสงคราม
  571. May I ask you a question? ขอฉันถามคำถามคุณหน่อยได้ไหม?
  572. Maybe it would be best to get some advice from… บางทีอาจเป็นการดีที่สุดที่จะขอคำแนะนำจาก...
  573. Maybe we could come here again for lunch later. บางทีคราวหน้าเราอาจจะมาทานอาหารเที่ยงที่นี่กันอีก
  574. My boy was kidnapped a few days ago. ลูกชายของฉันถูกลักพาตัวไปสองสามวันมาแล้ว
  575. My boyfriend has been seeing somebody else. แฟนของฉันคบหากับใครคนอื่นอยู่
  576. My cat is easily spooked before a thunderstorm. แมวฉันมักตื่นตกใจง่ายๆ ก่อนพายุฝนจะมา
  577. My computer was on the blink. คอมพิวเตอร์ของฉันเสีย/ใช้การไม่ได้
  578. My stomach is still upset, and I feel dizzy. ท้องไส้ฉันยังคงปั่นป่วนอยู่ และฉันก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ
  579. My wife is a little bit fresher today. วันนี้ภรรยาของผมสดชื่นมากกว่าเดิมเล็กน้อย
  580. Never mind about that. เรื่องนั้นช่างมันเถอะ
  581. No doubt he liked to do so. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาชอบทำอย่างนั้น
  582. No matter what happened, he would not say a word. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาก็จะไม่พูดสักคำ
  583. No one will believe that. ไม่มีใครเชื่อคุณหรอก
  584. No one’s ever done that before. ไม่มีใครเคยทำอย่างนั้นมาก่อน
  585. No, I don't know where it is, sorry. เสียใจด้วย ฉันไม่ทราบว่ามันอยู่ที่ไหน?
  586. No, no reason really. ไม่ ไม่มีเหตุผลอะไรจริงๆ
  587. No, nothing seems to be missing. ไม่ ดูเหมือนไม่มีอะไรหายไป
  588. No, thanks. I'm not a bit thirsty. ไม่หรอก ขอบคุณ ฉันไม่รู้สึกกระหายเลยสักนิด
  589. No, they're still awake. เปล่า พวกเขายังคงตื่นอยู่
  590. No, we're just good friends. ไม่ เราเป็นแค่เพียงเพื่อนที่ดีต่อกัน
  591. No, you invited me out, you choose. ไม่ คุณชวนฉันมา คุณเลือกเถอะ
  592. Nobody knows where it is? ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน?
  593. None of us is afraid of difficulties. พวกเราไม่มีใครกลัวความยากลำบาก
  594. Not a man volunteered to do the job. ไม่มีใครสักคนรับอาสาทำงานนี้
  595. Not really. ไม่เลยจริงๆ
  596. Not very good. I have a headache. ก็ไม่ดีมากนัก ฉันปวดหัว
  597. Now he wants to grow a beard. ตอนนี้เขาอยากไว้หนวด
  598. Now I really need your help. ตอนนี้ฉันต้องการความช่วยเหลือของคุณจริงๆ
  599. Now they don't even talk to each other. ตอนนี้พวกเขาไม่แม้แต่จะพูดคุยกัน
  600. Now will you please get to the point? ตอนนี้คุณช่วยเข้าสู่ประเด็นหน่อยได้ไหม?
  601. Now, I am focused on pursuing my new goals. ตอนนี้ฉันมุ่งความสนใจไปยังการไล่ตามเป้าหมายใหม่ของฉัน
  602. Now, I'm studying at Bangkok University. ตอนนี้ ฉันกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ
  603. Now, leave me alone. ตอนนี้ขอฉันอยู่ตามลำพังเถอะ
  604. Now, the important thing is to talk to them. ตอนนี้ สิ่งสำคัญคือต้องพูดกับพวกเขา
  605. Occasionally. Once in a while. Not very often. บางโอกาส นานๆ ครั้ง ไม่บ่อยมากนัก
  606. Of course. No problem. แน่นอน ไม่มีปัญหา
  607. Oh I'd love to but I have to do some work. โอ ฉันอยากจะไป แต่ฉันมีงานบางอย่างที่ต้องทำ
  608. Oh it's so quiet tonight! โอ คืนนี้ช่างเงียบเหงาเหลือเกิน
  609. Oh no! I can't find my purse! โอไม่ ฉันหากระเป๋าตังส์ไม่เจอ
  610. Oh relax! The books can wait. โอ พักผ่อนบ้าง หนังสือนะรอได้อยู่
  611. Oh sorry, am I interrupting something here? โอ ขอโทษนะ ฉันมาขัดจังหวะอะไรที่นี่หรือเปล่า?
  612. Oh thanks, we owe you. Bye! โอ ขอบใจนะ พวกเราเป็นหนี้คุณ ไปล่ะ
  613. Oh that's so kind of you. โอ คุณช่างใจดีเหลือเกิน
  614. Oh, I rather like that one. โอ ฉันชอบอันนั้นมากกว่า
  615. Oh, it seems like only yesterday. โอ มันดูเหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี่เอง
  616. Oh, it was my pleasure. โอ ฉันต่างหากที่ต้องยินดี
  617. Oh, it's a gorgeous dress. โอ มันเป็นชุดที่สวยงามมาก
  618. Oh, you're dropped something, madam. โอ คุณครับ คุณทำบางสิ่งตกไว้
  619. Ok everyone, I’ve got an announcement. เอาล่ะทุกคน ฉันมีอะไรจะประกาศ
  620. Okay, I’ll see you outside. ตกลง เจอกันข้างนอกนะ
  621. On behalf of my company, I would like to welcome you here. ในนามของบริษัท ผมขอต้อนรับพวกคุณที่นี่
  622. One third of this area is covered with forest. หนึ่งในสามของพื้นที่นี้ถูกปกคลุมด้วยป่า
  623. Open your books and turn to page 20. เปิดหนังสือของคุณไปที่หน้า 20
  624. Ouch! I cut my finger. โอ๊ย ฉันทำมีดบาดนิ้ว (มีดบาดนิ้วฉัน)
  625. Our car ran out of petrol. รถเราน้ำมันหมดแน่ะ
  626. Paper is made from wood. กระดาษทำมาจากไม้
  627. Patience is a mark of confidence. ความอดทนเป็นเครื่องหมายของความมั่นใจ
  628. Please be more careful. ได้โปรดระวังหน่อย
  629. Please come earlier. กรุณามาแต่เนิ่นๆ
  630. Please come with us if you would like to do so. โปรดมากับพวกเราถ้าคุณอยากมาด้วย
  631. Please listen to what I'm speaking. ได้โปรดฟังสิ่งที่ฉันกำลังพูด
  632. Please say that again. ได้โปรดพูดอีกครั้ง
  633. Please, make yourself comfortable. ได้โปรดทำตัวตามสบาย
  634. Probably just food poisoning. อาจเป็นเพียงแค่อาหารเป็นพิษ
  635. Seven of us were stuck in the lift for over an hour. พวกเราเจ็ดคนติดอยู่ในลิฟท์กว่า 1 ชั่วโมง
  636. She absolutely hated it. เธอเกลียดมันอย่างที่สุด
  637. She came to see you a moment ago. เธอมาพบคุณเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
  638. She caught him cheating on her. เธอจับได้ว่าเขานอกใจเธอ
  639. She delivered her first child. เธอให้กำเนิดลูกคนแรก
  640. She didn't fancy him so she said 'no'. เธอไม่ได้ชอบเขาดังนั้นเธอจึงบอกปฏิเสธ
  641. She doesn't want to go out with me. เธอไม่ต้องการออกไปเที่ยวกับฉัน
  642. She faced up to the problem. เธอเผชิญหน้ากับปัญหา
  643. She gave them a bit of food. เธอให้อาหารเล็กน้อยแก่พวกเขา
  644. She guided the tourists around the castle. เธอนำนักท่องเที่ยวชมรอบๆ ปราสาท
  645. She had a cold yesterday. เธอเป็นหวัดเมื่อวานนี้
  646. She had her first child last week. เธอได้ลูกคนแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  647. She has fallen in love with someone else. เธอได้พบรักกับคนอื่น
  648. She intends to make teaching her profession. เธอตั้งใจที่จะทำอาชีพสอนหนังสือ
  649. She is a woman not born yesterday. เธอไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนแล้ว
  650. She is anything but satisfied with her face. เธอไม่พอใจกับใบหน้าของตนเอง
  651. She is going out with Mark. เธอกำลังคบหากับมาร์ก
  652. She is not too happy with her marks. เธอไม่ยินดีมากนักกับคะแนนที่ได้
  653. She is such a kind person. เธอเป็นคนใจดี
  654. She kept that one a secret. เธอเก็บเรื่องนั้นเป็นความลับ
  655. She looks like me, except her hair style. เธอดูเหมือนฉัน ยกเว้นแต่ทรงผมของเธอ
  656. She makes it clear that she doesn't like swimming. เธอบอกอย่างชัดเจนว่าเธอไม่ชอบว่ายน้ำ
  657. She messed up the plans. เธอทำแผนรวนหมด
  658. She never keeps her promises. เธอไม่เคยรักษาสัญญาเลย
  659. She never resigns her son to another person's care. เธอไม่ยอมให้ใครดูแลลูกชายเธอเลย
  660. She reminds me of my mother. เธอทำให้ฉันนึกถึงคุณแม่ของฉัน
  661. She runs everyday in order to lose weight. เธอวิ่งทุกวันเพื่อลดน้ำหนัก
  662. She specializes in looking after children. เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลเด็ก
  663. She spent a lot of money on books. เธอเสียเงินกับหนังสือต่างๆ เป็นจำนวนมาก
  664. She told me a short time ago. เธอเพิ่งบอกฉันเมื่อครู่นี้
  665. She told me ages and ages ago. เธอบอกฉันมาเป็นชาติแล้ว
  666. She took her husband back. เธอคืนดีกับสามี
  667. She wants him to go to co-educational school. เธอต้องการให้เขาไปโรงเรียนสหศึกษา
  668. She was absolutely terrified when she heard the noise. เธอหวาดกลัวอย่างที่สุดเมื่อได้ยินเสียงนั่น
  669. She was doubtful about whether to go or not. เธอสงสัยว่าไปหรือไม่ไปดี
  670. She was injured badly in the accident. เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุนั้น
  671. She went out with him for 18 months. เธอคบกับเขามา 10 เดือนแล้ว
  672. She won first prize in the lottery. เธอถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง
  673. She won't allow a party in this house. เธอไม่ยอมให้มีปาร์ตี้ในบ้านหลังนี้
  674. She won't allow us to have a party. เธอจะไม่ปล่อยให้เราจัดปาร์ตี้
  675. She's just gone for a break. What's the matter? เธอเพิ่งจะออกไปพัก มีเรื่องอะไรหรือ?
  676. She's not my type really. เธอไม่ใช่แบบที่ฉันชอบจริงๆ นะ
  677. She's playing some kind of game with her children. เธอกำลังเล่นเกมบางอย่างกับลูกๆ
  678. She's tall, thin and beautiful. เธอสูง ผอม และสวย
  679. Show your tickets, please. ได้โปรดแสดงตั๋วด้วย
  680. Smoking is not allowed in this building. ตึกนี้ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่
  681. So how was the cinema? หนังเรื่องนี้เป็นไงบ้าง?
  682. So I'm going to ask you. ดังนั้นฉันกำลังจะถามคุณ
  683. So many of their alumni get into the top University. ศิษย์เก่าจำนวนมากของพวกเขาสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้
  684. So no more secrets, OK? ดังนั้นอย่ามีความลับอีก ตกลงไหม?
  685. So, this is a lot different than your home? งั้นที่นี่ก็แตกต่างอย่างมากกับที่บ้านของคุณสิ?
  686. Some topics of conversation can lead to arguments. บางหัวข้อสนทนาสามารถนำไปสู่การโต้แย้งได้
  687. Somebody just gave you a gift for your birthday. ใครบางคนเพิ่งให้ของขวัญคุณเนื่องในวันเกิด
  688. Somebody told my boss I have a part-time job. ใครบางคนบอกหัวหน้าฉันว่าฉันทำงานพาร์ทไทม์
  689. Sorry about the interruption. ขอโทษด้วยที่มาขัดจังหวะ
  690. Sorry to disturb, I'm just returning this book. ขอโทษที่รบกวน ฉันก็แค่จะเอาหนังสือมาคืน
  691. Sorry to keep you waiting. ขอโทษที่ทำให้คุณต้องคอย
  692. Take a seat, please, make yourself at home. ได้โปรดนั่งลง ทำตัวตามสบาย
  693. Take this medicine and you will feel better in due course. ทานยานี่แล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้นทันกาล
  694. Take your time. (ใช้เวลา)ตามสบายเถอะ / ไม่ต้องรีบร้อน
  695. Tell me what you did yesterday. บอกฉันหน่อยว่าคุณทำอะไรเมื่อวานนี้
  696. Terrible weather, isn't it? อากาศแย่มากเลยจริงไหม?
  697. Thank you for inviting me to tea. ขอบคุณที่เชิญฉันมาทานน้ำชา
  698. Thank you for your advice. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณ
  699. Thank you so much. I really like it. ขอบคุณมากเหลือเกิน ฉันชอบมันจริงๆ
  700. Thanks for dragging me out, guys. ขอบคุณที่ลากฉันออกมาเพื่อนๆ
  701. Thanks for inviting me. ขอบคุณที่เชิญฉัน
  702. That's too bad. แย่จังเลย
  703. That's very cool. นั่นเยี่ยมมากเลย
  704. That's what we need to talk to you about. นั่นแหล่ะคือสิ่งที่พวกเราต้องพูดกับคุณ
  705. That's won't be necessary. Thank you. นั่นไม่จำเป็นหรอก ขอบคุณ
  706. The boat is really to leave. All aboard! เรือใกล้จะออกแล้ว ทุกคนขึ้นเรือได้แล้ว
  707. The book is protected by copyright. หนังสือเล่มนี้ได้รับการคุ้มครองโดยลิขสิทธิ์
  708. The class will finish at 7:30 tonight. ชั้นเรียนจะเลิกในตอนทุ่มครึ่งคืนนี้
  709. The court set bail at 200,000 Baht. ศาลตั้งเงินค่าประกันสองแสนบาท
  710. The doctor asked me to watch what I eat. หมอขอให้ฉันระมัดระวังสิ่งที่รับประทาน
  711. The doctor will be with you in a moment. คุณหมอจะมาพบคุณในอีกสักครู่
  712. The dress doesn't fit her. She is too thin. ชุดนี้ไม่พอเหมาะกับเธอ เธอผอมเกินไป
  713. The examination put a lot of stress on him. การสอบทำให้เขากดดันมาก
  714. The ferocious dog attacked the child. สุนัขดุนั่นจู่โจมเข้าใส่เด็ก
  715. The hotel can accommodate over 1000 guests. โรงแรมสามารถจัดหาห้องพักให้แขกได้มากกว่า 1000 คน
  716. The hotel has a rule against keeping animals in bedrooms. โรงแรมนี้มีกฎไม่ให้เลี้ยงสัตว์ในห้องนอน
  717. The manager will return shortly. ผู้จัดการจะกลับมาเร็วๆ นี้
  718. The market is opposite the stadium. ตลาดอยู่ตรงข้ามกับสนามกีฬา
  719. The other one seemed nicer. อีกชุดดูดีกว่านะ
  720. The rice cooker is under the sink. หม้อหุงข้าวอยู่ใต้อ่าง
  721. The road ahead was full of sheep. ถนนข้างหน้าเต็มไปด้วยแกะ
  722. The room is not crowded. ห้องนี้ไม่แออัด
  723. The rumor had no basis. ข่าวลือไม่มีมูล
  724. The rumor is full of slander. ข่าวลือนั่นเต็มไปด้วยเรื่องใส่ร้ายป้ายสี
  725. The secret was spread among the crowd. ความลับนั้นได้แพร่กระจายไปในฝูงชน
  726. The soldiers fought against the enemy. ทหารต่อสู้กับศัตรู
  727. The teacher let us leave early. ครูปล่อยพวกเราเร็วขึ้น
  728. The two brothers are very much alike. สองหนุ่มพี่น้องเหมือนกันมากๆ
  729. There are a few things around the house I'd like you to do. มีงานสองสามอย่างโดยรอบบ้านที่ฉันอยากให้คุณทำ
  730. There are a lot of reasons why I'd stop seeing someone. มีเหตุผลตั้งมากมายที่ทำไมฉันถึงได้เลิกคบใครบางคน
  731. There are many ways of learning a language. มีหลายๆ วิธีในการเรียนภาษาหนึ่งๆ
  732. There are not enough cars. มีรถไม่พอเพียง
  733. There are two oranges in the fridge. มีส้มอยู่สองลูกในตู้เย็น
  734. There is a mark of ink on his shirt. มีรอยหมึกบนเสื้อเชิร์ตของเขา
  735. There is a problem with electricity. มีปัญหาเกี่ยวกับไฟฟ้า
  736. There is no doubt about that. ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนั้น
  737. There is no parking lot in the hospital. ไม่มีที่จอดรถในโรงพยาบาล
  738. There is not enough light to read. ไฟไม่สว่างพอที่จะอ่านหนังสือ
  739. There is nothing more going on between John and me. ระหว่างจอห์นและฉันไม่มีอะไรก้าวหน้ามากไปกว่านี้
  740. There is plenty of time for that later. มีเวลามากมายสำหรับเรื่องนั้นทีหลัง
  741. There is some difference between twins. มีความแตกต่างบางอย่างระหว่างฝาแฝด
  742. There isn't any water in the bottle. ไม่มีน้ำในขวดนั้นเลย
  743. There was quite a large crowd in the street. มีฝูงชนขนาดใหญ่ทีเดียวอยู่บนถนน
  744. There will be time enough for that later. จะมีเวลามากพอสำหรับเรื่องนั้นในตอนหลัง
  745. There's loads of stuff all over it. มีข้าวของจำนวนมากเต็มไปหมด
  746. They are arguing over who should pay the bill. พวกเขากำลังโต้เถียงกันเรื่องใครจะเป็นคนจ่ายค่าบิลล์
  747. They are deeply concerned about the condition of… พวกเขาเป็นห่วงอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสภาพ/ความเจ็บป่วยของ...
  748. They built a bridge across the river. พวกเขาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ
  749. They can't agree about… พวกเขาไม่สามารถเห็นด้วยเกี่ยวกับ
  750. They employed him as a consultant. พวกเขาจ้างเขาเป็นที่ปรึกษา
  751. They have plenty of money. พวกเขามีเงินมากมาย
  752. They have to work hard to support their family. พวกเขาต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว
  753. They insisted on staying rather than going. พวกเขายืนกรานที่จะอยู่มากกว่าไป
  754. They just moved down two years ago from the north. พวกเขาเพิ่งจะย้ายลงมาจากทางเหนือ 2 ปีมาแล้ว
  755. They sailed against the wind. พวกเขาแล่นเรือต้านลม
  756. They set up the equipment. พวกเขาจัดเตรียมอุปกรณ์
  757. They tell a very different story. พวกเขาเล่าเรื่องราวต่างกันมาก
  758. They took turns in watching their sick son. พวกเขาผลัดกันเฝ้าลูกชายที่ป่วย
  759. They were best friends for years. พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาหลายปี
  760. They will wrap it up for you. พวกเขาจะห่อมันให้กับคุณ
  761. Things are getting better. สิ่งต่างๆ กำลังดีขึ้น
  762. Thinking negatively can become a habit. การคิดในเชิงลบอาจกลายเป็นนิสัยได้
  763. Thinking ten times before you decide anything. คิดให้หลายตลบก่อนที่เธอจะตัดสินใจสิ่งใด
  764. This café charges very high prices for its coffee. ร้านกาแฟแห่งนี้คิดค่ากาแฟแพงมาก
  765. This door opens outwards. ประตูนี้เปิดออกไปสู่ด้านนอก
  766. This information should be made available to the public. ข้อมูลนี้ควรจะนำไปเผยแพร่สู่สาธารณะ
  767. This is the fourth time that this happened. สิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สี่แล้วนะ
  768. This is the worst day of your life so far. จนบัดนี้นี่ก็ยังเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของคุณ
  769. This isn't the first time this has happened. นี่มันไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
  770. This letter entitles him to enter the office. จดหมายนี้ให้สิทธิเขาเข้ามาในสำนักงานได้
  771. This one cannot compare with that one. สิ่งนี้ไม่สามารถเปรียบเทียบกับสิ่งนั้นได้
  772. This pen doesn't write well. ปากกาแท่งนี้เขียนไม่ดีเลย
  773. This pen has run out. Can I borrow yours? ปากกาแท่งนี้หมึกหมดแล้ว ขอยืมคุณหน่อยได้ไหม?
  774. This table was made by my father. โต๊ะตัวนี้ทำขึ้นโดยพ่อของฉัน
  775. This table was made of wood. โต๊ะตัวนี้ทำด้วยไม้
  776. This year I'm going to work really hard. ปีนี้ฉันจะทำงานหนักจริงๆ
  777. Three or four times a year. สามหรือสี่ครั้งต่อปี
  778. To be silent about what have been happened. ที่จะนิ่งเงียบเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
  779. Try to be more careful in future, okay? พยายามระมัดระวังให้มากขึ้นในคราวหน้า ตกลงไหม?
  780. Unlike him, she never gave up hope. เธอไม่เหมือนเขาตรงที่ เธอไม่เคยสิ้นความหวัง
  781. Wait a moment, I'll be with you in an instant. คอยเดี๋ยวก่อน ฉันจะมาพบคุณในอีกสักครู่นี่แหล่ะ
  782. Wait while I find the phone. คอยก่อนนะ ขณะที่ฉันหาโทรศัพท์อยู่
  783. Wake me up at five thirty! ปลุกฉันตื่นตอน 5:30 ด้วย
  784. Want me to lend you some cash? อยากยืมเงินฉันบ้างไหม?
  785. We are looking for something fresh and different. พวกเรากำลังมองหาบางสิ่งที่ใหม่และแตกต่าง
  786. We are on our way to Bangkok. พวกเรากำลังอยู่ในระหว่างทางมากรุงเทพฯ
  787. We are planning a tour to Italy this summer. พวกเรากำลังวางแผนไปเที่ยวอิตาลีกันหน้าร้อนนี้
  788. We are unable to repair it. พวกเราไม่สามารถซ่อมมันได้
  789. We are very grateful for what you did. พวกเรารู้สึกซาบซึ้งใจต่อสิ่งที่คุณทำ
  790. We cannot tolerate the situation. พวกเราไม่สามารถที่จะอดทนต่อสถานการณ์นั่นได้
  791. We can't go out because of the rain. พวกเราออกไปไม่ได้เพราะฝนตก
  792. We could have a party. พวกเราควรจะจัดปาร์ตี้นะ
  793. We gratefully acknowledge your help พวกเราขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณเป็นอย่างยิ่ง
  794. We had a bit of a shock when we heard the news. พวกเราช็อคนิดหน่อยเมื่อทราบข่าวนั้น
  795. We had a long discussion this morning about… พวกเราอภิปรายกันนานในเช้านี้เกี่ยวกับ
  796. We have done well. พวกเราทำได้ดี
  797. We have no time for dinner with you. พวกเราไม่มีเวลาสำหรับทานข้าวเย็นกับคุณ
  798. We have some other classes together. เรามีเรียนบางวิชาด้วยกัน
  799. We have to talk about everything! เราต้องคุยกันเกี่ยวกับทุกเรื่อง
  800. We have to walk two kilometers to a garage. พวกเราต้องเดินไปที่อู่รถ 2 กิโลเมตร
  801. We moved to Bangkok when I was 12 years old. พวกเราย้ายไปกรุงเทพฯเมื่อฉันอายุได้ 12 ขวบ
  802. We need more light. พวกเราต้องการแสงสว่างมากกว่านี้
  803. We need to tidy up. There's rubbish everywhere. เราต้องทำมันให้เป็นระเบียบ มีขยะอยู่ทุกที่เลย
  804. We never see you these days. พวกเราไม่ได้เจอคุณเลยหมู่นี้
  805. We often call him by his nickname. พวกเรามักจะเรียกชื่อเล่นของเขาประจำ
  806. We voted by show of hands. พวกเราออกเสียงโดยการยกมือ
  807. We would love you to come and stay. พวกเราอยากให้คุณมาพักด้วย
  808. We'd better do that straight away. พวกเราควรจะทำสิ่งนั้นโดยทันที
  809. We'd like to hear what you have to say. เราอยากได้ยินสิ่งที่คุณต้องพูด
  810. Weird! You told the boss? ประหลาด คุณบอกหัวหน้าหรือยัง?
  811. We'll be in touch very soon. พวกเราจะได้ติดต่อกันเร็วๆ นี้แหล่ะ
  812. We'll have our first anniversary party. พวกเราจะจัดปาร์ตีฉลองครบรอบหนึ่งปี
  813. Well I did at times, especially in the early days. ก็คิดถึงบ้างบางครั้ง โดยเฉพาะในวันแรกๆ
  814. Well it's true that it doesn't suit everyone. ก็จริงที่มันไม่ได้เหมาะกับทุกคน
  815. Well one of the main reasons is that… หนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คือว่า...
  816. Well thank you for coming in today. เอาล่ะ ขอบคุณมากที่มาในวันนี้
  817. Well this was much better than I expected. นี่มันก็ดีกว่าที่ฉันคาดไว้
  818. Well, he is tall and well built. ก็สูงและหุ่นดี
  819. Well, I'd love to go on a date. ก็ดี ฉันก็อยากจะออกเดท
  820. Well, I'm afraid it isn't up to me. เอ่อ ฉันเกรงว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ฉันนะ
  821. Well, it isn't anything serious. เอาล่ะ ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก
  822. Well, it’s been nice talking to you. I'll see you later. ดีจังที่ได้พูดคุยกับคุณ แล้วเจอกันคราวหลังนะ
  823. Well, let's not worry about it now. เอาล่ะ พวกเราอย่ากังวลเกี่ยวกับมันตอนนี้เลย
  824. Well, there are good arguments on both sides. เอ่อ! นั่นก็เป็นข้อถกเถียงที่ดีทั้งสองฝ่าย
  825. We're delighted to have you. พวกเราดีใจที่คุณมา
  826. We're hungry so we need some food. พวกเราหิวกัน ดังนั้นพวกเราต้องการอาหารบางอย่าง
  827. We're not all as rich as you, you know. รู้ไหม พวกเราทั้งหมดนี้ไม่ได้รวยเท่าคุณหรอกนะ
  828. We're not allowed animals in the flat. แฟลตนี้ไม่อนุญาตให้เราเลี้ยงสัตว์
  829. Were you born and raised in Chiangmai? คุณเกิดและเติบโตที่เชียงใหม่หรือ?
  830. We've been seeing each other for quite a while. พวกเราคบกันมาก็ช่วงระยะเวลาหนึ่ง
  831. We've run out of sugar. น้ำตาลเราหมดแล้ว
  832. What a lot of troubles! ช่างยุ่งยากมากมายอะไรอย่างนี้
  833. What a noise! เสียงดังอะไรอย่างนั้น
  834. What a surprise! น่าประหลาดอะไรอย่างนี้
  835. What an interesting story! เป็นเรื่องที่น่าสนใจอะไรอย่างนี้
  836. What an ugly picture! รูปอะไรน่าเกลียดอย่างนี้
  837. What are we celebrating? พวกเราจะฉลองอะไรกันดีล่ะ?
  838. What are you doing here? คุณกำลังทำอะไรอยู่ที่นี่?
  839. What are you doing on the computer? คุณกำลังทำอะไรกับคอมพิวเตอร์นั่น?
  840. What are you reading, or is it private? คุณกำลังอ่านอะไรอยู่ เป็นเรื่องส่วนตัวหรือ?
  841. What are your strengths and weaknesses? จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณคืออะไร?
  842. What can I do for you? ฉันจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง?
  843. What do you all want? It's my round. ทุกคนต้องการอะไรบ้าง ถึงตาฉันบ้างแล้ว
  844. What do you like to do in your free time? คุณชอบทำอะไรในยามว่างหรือ?
  845. What do you think, how do I look? คุณคิดว่าฉันเป็นไงบ้าง?
  846. What does Mike look like? ไมค์หน้าตาเป็นอย่างไรหรือ?
  847. What does she look like? รูปร่างหน้าตาเธอเป็นอย่างไร?
  848. What does that mean? นั่นหมายความว่าไง?
  849. What else did he say? เขาพูดอะไรอีกหรือ?
  850. What evidence do you have? คุณมีหลักฐานอะไร?
  851. What grade are you in? คุณเรียนอยู่ชั้นไหนหรือ?
  852. What have you been doing all day? คุณทำอะไรตลอดทั้งวันหรือ?
  853. What have you done to fascinate him? คุณทำอะไรให้เขาหลงใหลหรือ?
  854. What he told was all a fish story. เรื่องที่เขาบอกล้วนแต่เป็นเรื่องไร้สาระ
  855. What is the weather like in Chiangmai? อากาศที่เชียงใหม่เป็นอย่างไรบ้าง?
  856. What is your friend like? เพื่อนของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?
  857. What kind of film should they see? พวกเขาควรดูหนังประเภทไหนกัน?
  858. What kind of films do you like? คุณชอบหนังประเภทไหน?
  859. What seems to be the problem? มีปัญหาอะไรหรือ?
  860. What we read influences our thinking. สิ่งที่เราอ่านให้อิทธิพลกับความคิดของเรา
  861. What work does your father do? คุณพ่อคุณทำงานอะไรหรือ?
  862. What would you prefer? คุณชอบอันไหนมากกว่ากัน?
  863. What you need is just rest. สิ่งที่คุณต้องการก็แค่พักผ่อน
  864. What, are you deaf? I call you twice. อะไรนะ คุณหัวหนวกหรือไง? ฉันเรียกคุณตั้งสองครั้ง
  865. Whatever you say! อะไรก็ได้ (ที่ว่ามา)
  866. What's going on here? What a mess! เกิดอะไรขึ้นที่นี่? ช่างเละเทะอะไรอย่างนี้
  867. What's it like? มันเป็นอย่างไรบ้าง?
  868. What's the name of the film? (What's it called?) หนังเรื่องอะไรหรือ?
  869. What's the point of going to college? วัตถุประสงค์ของการเข้าวิทยาลัยคืออะไร?
  870. What's the story? (What’s it about?) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรหรือ?
  871. What's your advice? คุณมีคำแนะนำอะไรบ้าง?
  872. What's your opinion of the film? (What's it like?) คุณคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
  873. What's your plan for the summer vacation? คุณมีแผนอะไรสำหรับการไปพักร้อนนี้?
  874. When did you last see them? คุณพบเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?
  875. Where did you find it? คุณหามันมาได้จากที่ไหนหรือ?
  876. Where is your next class? วิชาต่อไปของเธอที่ไหนหรือ?
  877. Where would you like me to take it? คุณอยากให้ฉันถ่ายภาพให้ที่ไหนหรือ?
  878. Where's it playing? มันเล่นที่ไหนหรือ?
  879. Which offer a very high-quality education. ที่ให้การศึกษาที่มีคุณภาพสูงมาก
  880. Which ones are the right ones for me? ว่าอันไหนที่เหมาะสำหรับฉัน
  881. Who are the leading actors? (Who's in it?) ใครเป็นนักแสดงนำ?
  882. Who do you think it from? คุณคิดว่ามันมาจากใครหรือ?
  883. Who is the director? (Who's it by?) ใครเป็นผู้กำกับ?
  884. Who's in it? ใครอยู่ในนั้นหรือ?
  885. Why are you so serious about it? ทำไมคุณเครียดกับมันมากนัก?
  886. Why can't you were obey the rules? ทำไมคุณไม่เชื่อฟังกฏบ้าง?
  887. Why didn't you call me last night? ทำไมเธอไม่โทรหาฉันเมื่อคืนนี้?
  888. Why do people spend so much for them? ทำไมผู้คนต้องจ่ายเงินไปมากมายเพื่อพวกมันด้วย
  889. Why do you look so sad? ทำไมคุณถึงดูเศร้าจัง?
  890. Why do you think that? ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้น?
  891. Why don't we do something to cheer ourselves up? ทำไมเราไม่ทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ตัวเราเองรื่นเริงขึ้น?
  892. Why don't you admit you were the one who stole the book? ทำไมเธอไม่ยอมรับว่าเธอเป็นคนขโมยหนังสือเล่มนั้น?
  893. Why don't you ask first? ทำไมคุณไม่ถามก่อนล่ะ?
  894. Why don't you attend an aerobic class? ทำไมคุณไม่เข้าชั้นเรียนแอโรบิก?
  895. Why don't you choose? ทำไมคุณไม่เลือกล่ะ?
  896. Why don't you just tell me what's on your mind? ทำไมถึงไม่บอกฉันมาว่าคุณคิดอะไรอยู่?
  897. Why don't you try this cake? ทำไมไม่ลองทานเค๊กนี้ดู?
  898. Why don't you try to behave? ทำไมคุณถึงไม่พยายามทำตัวดีๆ
  899. Why have you been keeping it a secret for so long? ทำไมคุณถึงได้เก็บมันเป็นความลับตั้งนานอย่างนั้น?
  900. Why would she keep that a secret? ทำไมเธอถึงเก็บเรื่องนั้นเป็นความลับ
  901. Will anyone like to come with me? มีใครอยากจะไปกับฉันบ้างไหม?
  902. Will you be free tomorrow evening? คุณจะว่างตอนเย็นวันพรุ่งนี้ไหม?
  903. Will you come and join us for dinner on Sunday? คุณจะมาร่วมรับประทานอาหารค่ำกับเราในวันอาทิตย์ไหม?
  904. Will you help me finish the housework? คุณจะช่วยฉันทำงานบ้านนี้ให้เสร็จได้ไหม?
  905. Will you pick me up at my place? คุณจะช่วยมารับฉันที่บ้านได้ไหม?
  906. Will you practice with me, please? คุณจะฝึกซ้อมกับฉันหน่อยได้ไหม ได้โปรดเถอะ?
  907. Will you sew a button on this shirt for me please? คุณจะช่วยกรุณาเย็บกระดุมบนเสื้อเชิร์ตนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม?
  908. Will you shut the door please? คุณช่วยกรุณาปิดประตูหน่อยได้ไหมครับ?
  909. Won't anyone help me? จะไม่มีใครช่วยเหลือฉันเลยหรือไง?
  910. Won't you take me back? คุณจะไม่คืนดีกับฉันหรือ?
  911. Words can't express what I felt. คำพูดต่างๆ ไม่สามารถสื่อถึงความรู้สึกของฉันได้
  912. Would Friday be too soon? ศุกร์นี้เร็วเกินไปไหม?
  913. Would you be able to join me for dinner next Saturday? คุณจะมาทานอาหารค่ำกับฉันเสาร์หน้าได้ไหม?
  914. Would you like a refund? คุณอยากจะได้เงินคืนไหม?
  915. Would you like dessert? คุณชอบของหวานไหม?
  916. Would you like some help. คุณอยากให้ช่วยบ้างไหม?
  917. Would you like something to eat? คุณอยากทานอะไรบางอย่างไหม?
  918. Would you like to do it again? คุณอยากทำมันอีกครั้งไหม?
  919. Would you like to go out one evening? คุณอยากออกไปเที่ยวตอนเย็นกันสักครั้งไหม?
  920. Would you like to go out to dinner or to a movie? คุณอยากออกไปทานข้าวเย็นหรือดูหนังดีล่ะ?
  921. Would you like to go out with me? คุณอยากจะออกไปเที่ยวกับฉันไหม?
  922. Would you like to join me? คุณอยากร่วมวงกับฉันไหม?
  923. Would you like to leave a message? คุณอยากจะทิ้งข้อความไว้ไหม?
  924. Would you mind answering a few questions for us? คุณช่วยตอบคำถามเราสักสองสามข้อได้ไหม?
  925. Would you mind moving your car? คุณช่วยเคลื่อนรถไปหน่อยได้ไหมครับ?
  926. Would you please give me a few examples? คุณช่วยกรุณายกตัวอย่างสักสองสามอย่างได้ไหม?
  927. Would you wait here until the doctor is ready for you? คุณช่วยคอยอยู่ตรงนี้จนกว่าหมอจะว่างสำหรับคุณได้ไหม?
  928. Write me as soon as you get in. เขียนถึงฉันทันทีที่ไปถึงนะ
  929. Yes, I wish it would stop raining. ใช่ ฉันอยากให้ฝนหยุดตก
  930. Yes, we are good friends. ใช่ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
  931. You acted like a grown up. คุณทำตัวเป็นผู้ใหญ่
  932. You always have a choice. คุณมีทางเลือกเสมอ
  933. You and I need to cooperate. คุณและฉันต้องร่วมมือกัน
  934. You are entitled to your own opinion. คุณมีสิทธิแสดงความคิดเห็นของคุณ
  935. You are not allowed to smoke in this building. คุณไม่ได้รับอนุญาตให้สูบบุหรี่ในตึกนี้
  936. You are old enough to go out without my permission. คุณอายุมากพอแล้วที่จะออกไปข้างนอกโดยไม่ต้องขออนุญาตฉัน
  937. You are sweet and charming. คุณน่ารักและและมีเสน่ห์
  938. You are the best in the game. คุณเป็นคนเก่งที่สุดในเกมนี้
  939. You can buy something else to eat. คุณสามารถซื้ออย่างอื่นทานได้
  940. You can call me any time. คุณสามารถโทรหาฉันได้ทุกเมื่อ
  941. You can come home whenever you want. คุณกลับมาบ้านได้ทุกเมื่อที่คุณอยากมา
  942. You can either stay or leave. คุณสามารถอยู่หรือไปก็ได้ทั้งนั้น
  943. You can never turn the clock back. คุณไม่มีทางหมุนเวลากลับมาได้
  944. You can park anywhere. คุณสามารถจอดได้ทุกที่
  945. You can stay as long as you want! คุณสามารถอยู่ได้นานเท่าที่คุณต้องการ
  946. You can't miss it! คุณจะพลาดไม่ได้นะ
  947. You continue doing it, even if it is difficult. คุณยังคงทำมันต่อไป แม้ว่ามันจะยากลำบาก
  948. You don’t have to do this. คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้
  949. You failed this mid-term test quite badly. เธอสอบกลางภาคไม่ผ่านอย่างย่ำแย่เต็มทน
  950. You get all your work finished? คุณทำงานทั้งหมดเสร็จแล้วหรือ?
  951. You guys never listen to me. พวกนายไม่เคยฟังฉันเลย
  952. You have a cat in my flat? คุณเลี้ยงแมวไว้บนแฟลตของฉันหรือ?
  953. You have another woman. คุณมีผู้หญิงคนอื่น
  954. You have got a few days off work, haven't you? คุณได้หยุดงานสองสามวัน ใช่ไหม?
  955. You haven't been out for weeks. คุณไม่ได้ออกไปไหนมาหลายสัปดาห์แล้ว
  956. You haven't changed much. คุณเปลี่ยนไปไม่มากเท่าไหร่
  957. You just don't seem as close as you used to be. พวกคุณดูเหมือนไม่ค่อยสนิทกันอย่างที่เคยเป็น
  958. You just have to be yourself. คุณก็แค่เป็นตัวของคุณเอง / ทำตัวตามปกติ
  959. You know how much your degree means to me. ลูกรู้ไหมปริญญาของลูกมีความหมายต่อแม่แค่ไหน
  960. You know I can't allow it. เธอก็รู้ว่าฉันไม่สามารถอนุญาตได้
  961. You know what is best for you. เธอรู้ว่าอะไรที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
  962. You know you can count on me. คุณก็รู้ว่าคุณสามารถพึ่งพาฉันได้
  963. You look very pale. คุณดูซีดมากเลย
  964. You must be joking. คุณต้องล้อเล่นแน่
  965. You must do it now. คุณต้องทำมันตอนนี้เลย
  966. You must feel really proud. คุณต้องรู้สึกภูมิใจจริงๆ
  967. You must work according to the manual. คุณต้องทำงานตามข้อกำหนดในคู่มือ
  968. You need to do more studying. คุณต้องเรียนให้หนักมากขึ้น
  969. You need to relax properly. คุณต้องการการพักผ่อนอย่างพอเหมาะ
  970. You need to tighten your belt. คุณจำเป็นต้องรัดเข็มขัดตัวเองแล้วนะ
  971. You should be ashamed of your behavior. คุณควรจะรู้สึกกระดากอายต่อพฤติกรรมของตน
  972. You should be more careful. คุณควรจะระวังมากกว่านี้
  973. You should read this book! คุณควรจะอ่านหนังสือเล่มนี้
  974. You should try to spend less. คุณควรพยายามใช้จ่ายให้น้อยลง
  975. You used to do a much better job. คุณเคยทำงานที่ดีกว่านี้มาก
  976. You will have a chance of promotion. คุณจะมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่ง
  977. You wouldn't go out with a guy like me. คุณคงจะไม่ออกไปเที่ยวกับผู้ชายอย่างผมหรอก
  978. You'd better destroy this letter so that no one else would see it. คุณควรทำลายจดหมายนี้เพื่อที่จะได้ไม่มีใครเห็นมัน
  979. You'd better hope somebody is there to help you. คุณควรจะหวังว่ามีใครบางคนอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือคุณ
  980. You'd better let her alone. คุณควรปล่อยให้เธออยู่ตามลำพังดีกว่า
  981. You'd better not make him late. คุณไม่ควรทำให้เขาสายนะ
  982. You'd better take the rest of your cake home. เธอควรจะเอาเค๊กส่วนที่เหลือของเธอกลับไปด้วยนะ
  983. You'll have plenty of time to sleep tomorrow. พรุ่งนี้คุณจะมีเวลานอนเต็มที่เลยแหล่ะ
  984. Your answer is satisfying. I feel satisfied. คำตอบของคุณน่าพอใจ ฉันรู้สึกพอใจ
  985. Your article is not good enough. บทความของคุณไม่ดีพอ
  986. Your dress suits you very well. ชุดของคุณเหมาะกับคุณดีมาก
  987. Your English is improving little by little. ภาษาอังกฤษของคุณกำลังพัฒนาไปทีละน้อย
  988. Your parents won't like it if you do. พ่อแม่คุณต้องไม่ชอบแน่ถ้าคุณทำมัน
  989. Your time has expired. เวลาของคุณหมดแล้ว
  990. You're 3 years older than me. คุณอายุมากกว่าฉัน 3 ปี
  991. You're always too busy studying. คุณยุ่งกับการเรียนอย่างมากเสมอ
  992. You're going out with another man. คุณกำลังคบหากับผู้ชายคนอื่น
  993. You're not allowed to smoke in this office. สำนักงานนี้ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่
  994. You're not angry with me? คุณไม่โกรธฉันใช่ไหม?
  995. You're not going to quit, are you? คุณจะไม่ล้มเลิก ใช่ไหม?
  996. You're right, the blue dress looks better. คุณพูดถูกแล้ว ชุดสีฟ้าดูดีกว่า
  997. You're selfish and two-faced. เธอเห็นแก่ตัวและตีสองหน้า
  998. You're welcome to stay with us next time. ยินดีต้อนรับคุณมาพักกับพวกเราอีกคราวหน้า
  999. You've been very patient. คุณช่างอดทนมากเลย
  1000. You've got to believe me! คูณต้องเชื่อฉันนะ
โดย  poowiang